การคาดการณ์ราคาหุ้น The Walt Disney Company: หุ้นอาจกลับมาเติบโตหลังการปรับฐานเล็กน้อย

20.02.2025

รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 1 ปี 2025 ของ The Walt Disney Company (NYSE: DIS) ไม่เพียงแสดงให้เห็นถึงการเติบโตที่แข็งแกร่งของรายได้และกำไรซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้เท่านั้น แต่ยังเผยถึงการลดลงของจำนวนสมาชิก Disney+ จำนวน 700,000 รายอีกด้วย ส่งผลให้ราคาหุ้นในช่วงแรกปรับตัวสูงขึ้นหลังการเผยแพร่รายงาน แต่สุดท้ายแล้วปิดตลาดลดลง 2.5%

บทความนี้จะกล่าวถึง The Walt Disney Company และโมเดลธุรกิจของบริษัท พร้อมทั้งนำเสนอการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานของรายงานทางการเงินของ Disney นอกจากนี้ยังรวมถึงการวิเคราะห์ทางเทคนิคของหุ้น Walt Disney เพื่อประเมินประสิทธิภาพในปัจจุบัน ซึ่งเป็นพื้นฐานสำหรับการคาดการณ์ราคาหุ้น DIS ในเดือนธันวาคม 2024 และตลอดทั้งปี 2025

เกี่ยวกับ The Walt Disney Company

The Walt Disney Company เป็นหนึ่งในบริษัทสื่อและความบันเทิงที่ใหญ่ที่สุดในโลก ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 1923 โดยสองพี่น้อง Walter และ Roy Disney บริษัทมีชื่อเสียงในด้านภาพยนตร์คนแสดง (Live-Action) และภาพยนตร์การ์ตูนอนิเมชัน รวมถึงผลงานอันโดดเด่นอย่าง ‘Snow White and the Seven Dwarfs’ พอร์ตโฟลิโอของ Disney ประกอบด้วย Lucasfilm, Marvel Studios, Pixar และ 20th Century Studios นอกจากการผลิตภาพยนตร์แล้ว Disney ยังดำเนินกิจการสวนสนุกและรีสอร์ททั่วโลก เช่น Disney World และ Disneyland รวมถึงแพร่ภาพผ่านสถานีโทรทัศน์ ABC, ESPN และ National Geographic ในปี 2019 บริษัทเปิดตัวบริการสตรีมมิง Disney+ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมผลิตและให้อนุญาตสินค้าหลากหลายรูปแบบที่เกี่ยวข้องกับแฟรนไชส์ยอดนิยมของบริษัท Disney เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE) เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 1957 โดยใช้สัญลักษณ์ DIS

แหล่งรายได้หลักของ The Walt Disney Company

รายได้ของ Walt Disney มาจากหลายแหล่งที่สำคัญ ครอบคลุมการดำเนินงานที่หลากหลายด้านสื่อและความบันเทิง ส่วนธุรกิจที่สร้างรายได้หลักของ Disney มีดังนี้:

  • Media Networks: ช่องโทรทัศน์และเครือข่ายเคเบิล (ABC, Disney Channel, ESPN, FX, National Geographic และอื่นๆ) แหล่งรายได้มาจากการโฆษณา ค่าลิขสิทธิ์ การสมัครสมาชิกแบบชำระเงิน และการขายสิทธิ์การแพร่ภาพ
  • Subscriptions and International Operations: บริการสตรีมมิง (Disney+, ESPN+, และ Hulu) และการค้าระหว่างประเทศ โดยแหล่งรายได้หลักมาจากค่าบริการสมัครสมาชิกบนแพลตฟอร์มสตรีมมิง และการขายคอนเทนต์กับลิขสิทธิ์ในตลาดต่างประเทศ
  • Parks, Experiences, and Consumer Products: สวนสนุก รีสอร์ท เรือสำราญ และโรงแรม รายได้มาจากการขายตั๋วแพ็กเกจท่องเที่ยว ของที่ระลึก ของเล่นลิขสิทธิ์ และสินค้าและบริการอื่นๆ
  • Studio Entertainment: การผลิตและจัดจำหน่ายภาพยนตร์ การขายวิดีโอโฮม และการจัดการลิขสิทธิ์เพลง รายได้มาจากการจัดจำหน่ายในโรงภาพยนตร์ การขายเนื้อหาดิจิทัลและสื่อกายภาพ รวมถึงรายได้จากซาวด์แทร็กและค่าลิขสิทธิ์

ในรายงานทางการเงิน Disney จัดแบ่งรายได้ทั้งหมดออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่:

  1. Entertainment: การผลิตภาพยนตร์ รายการโทรทัศน์ การจัดจำหน่ายในโรงภาพยนตร์ การขายและให้สิทธิ์คอนเทนต์ การวางจำหน่ายซาวด์แทร็ก และการแสดงบรอดเวย์
  2. Sports: การดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์ ESPN รวมถึงการแพร่ภาพทางเคเบิลและดิจิทัลสิทธิ์กีฬาต่างๆ สิทธิ์การแพร่ภาพการแข่งขันกีฬา แพลตฟอร์มสตรีม ESPN+ โฆษณา การให้สิทธิ์คอนเทนต์ และการจัดทำโปรแกรมวิเคราะห์กีฬาและอีเวนต์
  3. Experiences: สวนสนุก (Disneyland, Disney World และสวนสนุกในต่างประเทศ) เรือสำราญ (Disney Cruise Line) รีสอร์ทและโรงแรม แหล่งท่องเที่ยว รวมถึงอีเวนต์และกิจกรรมปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์ Disney (โชว์เชิงโต้ตอบและทัวร์ VIP)

จุดแข็งและจุดอ่อนของ The Walt Disney Company

จุดแข็งของ Walt Disney:

  • Popular brand and recognition: Disney เป็นหนึ่งในบริษัทที่เป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก
  • Unique intellectual property: แฟรนไชส์ Marvel, Pixar และ Star Wars ตัวละครการ์ตูนคลาสสิก และคอนเทนต์ต้นฉบับ
  • Diversified business: Disney สร้างรายได้จากหลายส่วนธุรกิจ รวมถึงสื่อ สตรีมมิง สินค้า และภาพยนตร์
  • Global presence: สวนสนุก ภาพยนตร์ และสื่อของ Disney ไม่ได้เน้นเฉพาะในสหรัฐฯ เท่านั้น แต่ยังครอบคลุมตลาดต่างประเทศ
  • Business integration: การผสานรวมธุรกิจอย่างครอบคลุมช่วยให้บริษัทใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยภาพยนตร์และรายการต่างๆ เป็นพื้นฐานสำหรับแหล่งท่องเที่ยวเชิงธีม สินค้า และลิขสิทธิ์

จุดอ่อนของธุรกิจ Walt Disney:

  • Reliance on flagship Marvel and Star Wars franchises: หากไม่สามารถออกคอนเทนต์ได้ตามแผน อาจส่งผลลบต่อรายได้ของ Disney
  • Dependence on economic conditions: สวนสนุกและรีสอร์ท ซึ่งเป็นแหล่งรายได้สำคัญ อ่อนไหวต่อภาวะเศรษฐกิจ กระแสการท่องเที่ยว และเหตุการณ์ระดับโลก (เช่น การระบาดของ COVID-19)
  • High streaming costs: Disney+ มีต้นทุนคอนเทนต์สูงและเผชิญการแข่งขันที่รุนแรง ซึ่งเพิ่มภาระด้านการใช้จ่ายของบริษัท
  • Slow adaptation to audience preferences: Disney เผชิญความท้าทายในการตอบสนองต่อความต้องการที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โครงสร้างองค์กรขนาดใหญ่ทำให้การตัดสินใจล่าช้า และยังถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนโยบายด้านวัฒนธรรมและสังคมบ่อยครั้ง ซึ่งอาจนำไปสู่ความเสี่ยงด้านชื่อเสียง

คู่แข่งหลักของ Disney ได้แก่ Amazon.com, Inc. (NASDAQ: AMZN), Apple Inc. (NASDAQ: AAPL), Comcast Corporation (NASDAQ: CMCSA), NBCUniversal, Netflix, Inc. (NASDAQ: NFLX), Paramount Global (NASDAQ: PARA), Sony Pictures, และ Warner Bros. Discovery, Inc. (NYSE: WBD) โดยแต่ละบริษัทมีความเป็นผู้นำในส่วนธุรกิจเฉพาะ (เช่น Netflix ในด้านสตรีมมิง, Universal Studios ในด้านสวนสนุก, และ Warner Bros. Discovery ในด้านการผลิตคอนเทนต์ภาพยนตร์และโทรทัศน์) อย่างไรก็ตาม การผสานกันระหว่างแผนกธุรกิจที่หลากหลายของ Disney ขนาดองค์กร และแบรนด์ที่แข็งแกร่ง ทำให้บริษัทได้เปรียบอย่างมากเหนือคู่แข่ง

รายงาน Q4 2024 ของ The Walt Disney Company

เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน The Walt Disney Company ได้เผยแพร่รายงานสำหรับไตรมาสที่ 4 ปีงบประมาณ 2024 ซึ่งสิ้นสุดเมื่อวันที่ 28 กันยายน โดยมีข้อมูลสำคัญดังนี้:

  • Revenue: 22.57 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (+6%)
  • Net income: 0.95 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (-6%)
  • Earnings per Share: 1.14 ดอลลาร์สหรัฐ (+39%)
  • Operating profit: 3.65 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (+23%)

Revenue by segment:

  • Entertainment: 10.83 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (+14%)
  • Sports: 3.91 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ไม่เปลี่ยนแปลง)
  • Experiences: 8.24 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (+1%)

Segment operating income:

  • Entertainment: 1.07 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (+353%)
  • Sports: 0.92 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (-5%)
  • Experiences: 1.66 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (+6%)

ตัวชี้วัดทุกประการ (ยกเว้นกำไรสุทธิ) แสดงการเติบโต ฝ่ายบริหารของบริษัทชี้ว่าการลดลงของกำไรสุทธิมาจากการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นด้านการผลิตคอนเทนต์และการตลาด รวมถึงต้นทุนที่สูงขึ้นในการพัฒนาบริการสตรีมมิง (Disney+, Hulu)

บริษัทยังคาดว่าตัวชี้วัดทางการเงินหลักจะยังคงเติบโตในปี 2025 แต่อาจมีการลดลงของจำนวนสมาชิก Disney+ ใหม่ในไตรมาสที่ 1 ปี 2025 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 4 ปี 2024

Disney มีแผนซื้อหุ้นคืน (Share Buyback) มูลค่า 3.00 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และจ่ายเงินปันผลในปีนี้ โดยเงินปันผลจะเพิ่มขึ้น 33% เป็น 0.50 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น และจะจ่ายเป็น 2 งวดในเดือนมกราคมและกรกฎาคม 2025

สำหรับปี 2026 Walt Disney คาดการณ์ว่าการเติบโตในแผนก Sports จะชะลอตัวลงเป็นเลขหลักเดียวระดับสูง (Significant Single-Digit) ขณะที่แผนก Experiences จะเติบโตเลขหลักเดียว และแผนก Entertainment จะเติบโตเลขสองหลัก (Double-Digit)

จากการคาดการณ์ปี 2025-2026 ของบริษัท ตัวชี้วัดทางการเงินหลักน่าจะเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งควรส่งผลบวกต่อการจ่ายเงินปันผลและโครงการซื้อหุ้นคืน สุดท้ายแล้วอาจนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของราคาหุ้น

รายงานผลประกอบการ Q1 2025 ของ The Walt Disney Company

เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ The Walt Disney Company ได้เผยแพร่รายงานประจำไตรมาสที่ 1 ปีงบประมาณ 2025 ซึ่งสิ้นสุดเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2024 โดยมีข้อมูลสำคัญดังนี้:

  • รายได้: 24.69 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (+6%)
  • กำไรสุทธิ: 3.66 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (+27%)
  • กำไรต่อหุ้น: 1.76 ดอลลาร์สหรัฐ (+44%)
  • กำไรจากการดำเนินงาน: 5.06 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (+31%)

รายได้แยกตามส่วนธุรกิจ:

  • Entertainment: 10.87 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (+9%)
  • Sports: 4.85 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ไม่เปลี่ยนแปลง)
  • Experiences: 9.41 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (+3%)

กำไรจากการดำเนินงานแยกตามส่วนธุรกิจ:

  • Entertainment: 1.70 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (+95%)
  • Sports: 247 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (เทียบกับขาดทุน 103 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)
  • Experiences: 3.11 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (+31%)

ซีอีโอ Robert Alan Iger เน้นย้ำว่า บริษัทเริ่มต้นปีงบประมาณใหม่ได้อย่างแข็งแกร่งและแสดงความเชื่อมั่นในกลยุทธ์การเติบโต โดยเขาได้กล่าวถึงความสำเร็จที่โดดเด่นในบริการสตรีมมิง รวมถึงการผสาน ESPN เข้ากับ Disney+ และประสิทธิภาพที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องในกลุ่มสวนสนุกและรีสอร์ท

สำหรับอนาคต Disney คาดการณ์ว่าอัตราการเติบโตของกำไรต่อหุ้น (EPS) ที่ปรับปรุงแล้วจะอยู่ในระดับเลขหลักเดียวสูง (High-Single-Digit) เมื่อเทียบกับปี 2024 นอกจากนี้ บริษัทคาดว่ากำไรจากการดำเนินงานในกลุ่มสตรีมมิง (Disney+, Hulu, ESPN+) จะเพิ่มขึ้นประมาณ 875 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2025 ดังที่เคยคาดไว้ Disney วางแผนจัดสรรเงิน 3.00 พันล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับการซื้อหุ้นคืน

แม้ว่า The Walt Disney Company จะมีรายได้และกำไรที่สูงกว่าคาดการณ์ในไตรมาสที่ 1 ปี 2025 แต่ราคาหุ้นกลับปรับตัวลงเล็กน้อยเมื่อสิ้นสุดช่วงการซื้อขายในวันที่รายงานเผยแพร่ออกมา สาเหตุหลักมาจากการลดลงของจำนวนสมาชิก Disney+ จำนวน 700,000 ราย ซึ่งทำให้นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับการเติบโตต่อไปในภาคสตรีมมิง นอกจากนี้ บริษัทได้เตือนว่าอาจมีการลดลงของจำนวนสมาชิกเพิ่มขึ้นในไตรมาสที่ 2 เนื่องจากการปรับขึ้นราคาเมื่อไม่นานมานี้ ยิ่งตอกย้ำความเชิงลบในตลาด

การคาดการณ์ของผู้เชี่ยวชาญต่อหุ้น The Walt Disney Company ในปี 2025

  • Barchart: จากนักวิเคราะห์ 29 คน 20 คนให้คะแนนหุ้น Walt Disney เป็น Strong Buy, 2 คนเป็น Moderate Buy และ 7 คนเป็น Hold โดยมีราคาเป้าหมายสูงสุดที่ 147 USD
  • MarketBeat: จากผู้เชี่ยวชาญ 27 คน 21 คนให้คะแนนเป็น Buy ขณะที่ 6 คนแนะนำ Hold โดยมีราคาเป้าหมายสูงสุดที่ 147 USD
  • TipRanks: จากผู้เชี่ยวชาญ 21 คน 16 คนแนะนำ Buy ขณะที่ 5 คนให้คำแนะนำ Hold โดยมีราคาเป้าหมายสูงสุดที่ 147 USD
  • Stock Analysis: ในบรรดาผู้เชี่ยวชาญ 26 คน 15 คนให้คะแนนหุ้นเป็น Strong Buy, 6 คนเป็น Buy และ 5 คนเป็น Hold โดยมีราคาเป้าหมายสูงสุดที่ 147 USD

ไม่มีนักวิเคราะห์คนใดแนะนำให้ขายหุ้น Walt Disney

การคาดการณ์ราคาหุ้น The Walt Disney Company สำหรับปี 2025

ราคาหุ้น Disney เริ่มปรับตัวลดลงตั้งแต่เดือนมีนาคม 2021 จากระดับ 200 USD และหยุดลงในเดือนตุลาคม 2023 ที่ 80 USD ก่อนหน้านี้ในช่วงวิกฤตโควิด-19 เมื่อมีมาตรการล็อกดาวน์และการปิดพรมแดนจากรัฐบาล ทำให้การเข้าชมสวนสนุก Disney ลดลงอย่างรุนแรง หุ้นเคยร่วงจาก 150 USD มาที่แนวรับ 80 USD แนวรับดังกล่าวยังคงเป็นจุดสำคัญที่นักลงทุนให้ความสนใจในการเข้าซื้อหุ้น ปัจจุบันราคาหุ้นซื้อขายอยู่ราวๆ 110 USD และมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดรูปแบบสามเหลี่ยม (Triangle) ในกราฟ เมื่อพิจารณาจากประสิทธิภาพราคาหุ้น The Walt Disney Company แนวโน้มราคาที่อาจเกิดขึ้นในปี 2025 มีดังนี้

  • กรณีคาดการณ์หลัก สำหรับแนวโน้มหุ้น The Walt Disney Company บ่งชี้ว่าราคาหุ้นอาจลดลงไปที่ขอบล่างของสามเหลี่ยมที่ 90 USD ต่อหุ้น จากนั้นดีดตัวกลับขึ้นไปที่ระดับแนวต้าน 120 USD หากทะลุเหนือระดับนี้ ราคาหุ้นอาจขยับขึ้นไปสู่ 150 USD สถานการณ์นี้ได้รับแรงหนุนจากแนวโน้มที่อ่อนแอของบริษัทในไตรมาสถัดไป ซึ่งคาดว่าผลประกอบการจะดีขึ้นก็ต่อเมื่อเข้าสู่ครึ่งปีหลังของ 2025
  • กรณีคาดการณ์ทางเลือก สำหรับแนวโน้มหุ้น Walt Disney คาดว่าราคาจะทะลุแนวต้าน 120 USD ขึ้นไปแตะ 150 USD หากราคาหุ้นสามารถทะลุแนวต้านนี้ ราคามีโอกาสปรับตัวขึ้นไปสู่ 170 USD

การวิเคราะห์และการคาดการณ์ราคาหุ้น The Walt Disney Company สำหรับปี 2025
Risk Warning: the result of previous trading operations do not guarantee the same results in the future

การวิเคราะห์และการคาดการณ์ราคาหุ้น The Walt Disney Company สำหรับปี 2025

ความเสี่ยงในการลงทุนในหุ้น The Walt Disney Company

การลงทุนในหุ้น Walt Disney อาจน่าดึงดูดเนื่องจากความแข็งแกร่งของแบรนด์และโมเดลธุรกิจที่หลากหลาย อย่างไรก็ตาม มีความเสี่ยงบางประการที่นักลงทุนควรพิจารณา:

  • Dependence on consumer spending: Disney พึ่งพารายได้จากภาคความบันเทิง (สวนสนุก ภาพยนตร์ และบริการสตรีมมิง) เป็นอย่างมาก ในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว ผู้บริโภคมักจะลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น เช่น ความบันเทิง ซึ่งส่งผลลบต่อรายได้ของบริษัท
  • Competition in media and streaming: ตลาดสตรีมมิงมีความหลากหลายและอิ่มตัวสูง แม้ Disney+ จะมีโอกาสเติบโต แต่การรักษาตำแหน่งในตลาดต้องอาศัยการลงทุนจำนวนมากในด้านคอนเทนต์ ซึ่งเพิ่มต้นทุนของบริษัท เนื่องจากบริษัทไม่สามารถมุ่งเน้นเพียงธุรกิจเดียวเหมือน Netflix (ซึ่งมีสตรีมมิงเป็นรายได้หลัก) จึงมีความเสี่ยงที่อิทธิพลของ Disney ในตลาดนี้จะลดลง
  • Development costs and debt obligations: Disney ลงทุนในโครงการใหม่ๆ เช่น สวนสนุก คอนเทนต์สตรีมมิง และเทคโนโลยี ซึ่งเพิ่มภาระหนี้ของบริษัท หากอัตราดอกเบี้ยในสหรัฐฯ สูงขึ้น การรีไฟแนนซ์หนี้จะมีต้นทุนสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไรโดยรวมของ Disney
  • Brand and reputation risks: หากเกิดเรื่องอื้อฉาวที่เกี่ยวข้องกับผู้บริหารหรือผลิตภัณฑ์ของบริษัท อาจทำลายชื่อเสียงได้ การตัดสินใจเกี่ยวกับการออกภาพยนตร์หรือซีรีส์ที่ถูกมองว่าขัดแย้ง อาจนำไปสู่การถูกปฏิเสธหรือแม้แต่การคว่ำบาตรจากกลุ่มผู้ชมบางส่วน

หุ้นของ Disney อาจให้โอกาสในการเติบโตระยะยาวที่น่าสนใจสำหรับผู้ถือหุ้น โดยเฉพาะหากธุรกิจสตรีมมิงประสบความสำเร็จ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรพิจารณาความเสี่ยงข้างต้นและกระจายพอร์ตการลงทุนอย่างเหมาะสม

สรุป

จากรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 1 ปี 2025 The Walt Disney Company ได้แสดงถึงความแข็งแกร่งและความก้าวหน้าเชิงกลยุทธ์ โดยยังคงตอกย้ำสถานะความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมบันเทิง อย่างไรก็ตาม ยังมีความท้าทายบางประการ แม้ว่าบริษัทจะมีผลงานที่แข็งแกร่งในส่วนธุรกิจสำคัญ เช่น สตรีมมิงและสวนสนุก จำนวนสมาชิก Disney+ ที่ลดลงสะท้อนถึงความยากลำบากในการรักษาฐานผู้ชมท่ามกลางราคาที่ปรับตัวสูงขึ้นและการแข่งขันที่เข้มข้น อีกหนึ่งความท้าทายคือปัจจัยมหภาค ได้แก่ ภาวะเงินเฟ้อและแนวโน้มด้านการท่องเที่ยวที่เปลี่ยนแปลง ซึ่งอาจส่งผลต่อจำนวนผู้เยี่ยมชมสวนสนุกและค่าใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว

อย่างไรก็ตาม แม้ในสภาวะเช่นนี้ Disney ยังมีศักยภาพอย่างมากที่จะประสบความสำเร็จในธุรกิจหลัก หนึ่งในโอกาสสำคัญของบริษัทคือการปรับปรุงความสามารถในการทำกำไรของบริการสตรีมมิง (Streaming) โดยการเน้นการปรับราคาให้เหมาะสม การนำเสนอแพ็กเกจแบบรวม (Disney+, Hulu, ESPN) และการลดต้นทุน อาจช่วยเพิ่มอัตรากำไรพร้อมกับรักษาฐานสมาชิกได้ การผสานการถ่ายทอดสดกีฬาเข้ากับเนื้อหาสตรีมมิงอย่างมีประสิทธิภาพอาจยิ่งกระตุ้นให้ผู้ชมมีส่วนร่วมมากขึ้นและดึงดูดผู้ใช้ใหม่ๆ

อีกปัจจัยขับเคลื่อนที่สำคัญคือสวนสนุกและความบันเทิง ซึ่งเป็นรากฐานของธุรกิจ Disney การลงทุนในเครื่องเล่นใหม่ๆ การขยายสวนสนุก และสายเรือสำราญจะสนับสนุนการเติบโตในระยะยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออุปสงค์ด้านการท่องเที่ยวทั่วโลกเริ่มมีเสถียรภาพ

หาก Disney รักษาระเบียบวินัยทางการเงินไปพร้อมกับการลงทุนในคอนเทนต์และประสบการณ์ต่างๆ บริษัทอาจเติบโตได้อย่างยั่งยืน ซึ่งจะทำให้ปี 2025 เป็นปีที่ประสบความสำเร็จสำหรับบริษัท

โปรดทราบ!

การคาดการณ์ที่นำเสนอในส่วนนี้จะสะท้อนให้เห็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้แต่งเท่านั้น และจะไม่สามารถถูกพิจารณาว่าเป็นแนวทางสำหรับการซื้อขาย RoboForex ไม่รับผิดชอบสำหรับผลลัพธ์การซื้อขายที่อ้างอิงตามคำแนะนำการซื้อขายที่อธิบายเอาไว้ในบทวิจารณ์การวิเคราะห์เหล่านี้