การคาดการณ์ราคาหุ้นของ McDonald’s: ยอดขายในสหรัฐฯ ที่อ่อนแอเพิ่มแรงกดดันต่อราคาหุ้น

23.05.2025

ยอดขายในสหรัฐฯ ลดลงแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2020 สะท้อนความเสี่ยงในการดำเนินงานระยะสั้นของ McDonald’s ท่ามกลางสถานการณ์นี้ ราคาหุ้น MCD อาจปรับฐานลงสู่ระดับ 275 ดอลลาร์สหรัฐ

ในไตรมาสที่ 1 ปี 2025 McDonald's Corporation (NYSE: MCD) รายงานว่ายอดขายเปรียบเทียบในสหรัฐฯ ลดลง 3.6% ซึ่งเป็นการลดลงที่มากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2020 ยอดขายเปรียบเทียบทั่วโลกก็ลดลง 1% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ และสะท้อนถึงความท้าทายในตลาดสำคัญ เช่น สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย แคนาดา เยอรมนี และญี่ปุ่น บริษัทเผชิญกับแรงกดดันจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ลดลง โดยเฉพาะในกลุ่มรายได้ต่ำถึงปานกลาง ความเชื่อมั่นของนักลงทุนกลายเป็นลบ แม้ว่านักวิเคราะห์ยังคงมองบวกกับกลยุทธ์การสร้างมูลค่าในระยะยาวของบริษัท แต่ราคาหุ้น McDonald’s ร่วงลง 2% หลังการเปิดเผยรายงาน และยังคงลดลงต่อเนื่อง สะท้อนถึงความกังวลของตลาดต่อรายได้ที่ต่ำกว่าคาดและแรงกดดันจากปัจจัยเศรษฐกิจมหภาค

บทความนี้จะวิเคราะห์ McDonald's Corporation โดยให้การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานจากรายงานผลประกอบการของ McDonald’s (MCD) และการวิเคราะห์ทางเทคนิคของหุ้น McDonald’s ซึ่งเป็นพื้นฐานสำหรับการคาดการณ์ราคาหุ้น MCD ในปี 2025 รวมถึงอธิบายรูปแบบธุรกิจของบริษัท ประเมินความเสี่ยงของการลงทุนในหุ้น McDonald's Corporation และนำเสนอการคาดการณ์จากผู้เชี่ยวชาญต่อราคาหุ้นของบริษัท

ภาพชื่อบริษัท McDonald’s Corporation
Risk Warning: the result of previous trading operations do not guarantee the same results in the future

ภาพชื่อบริษัท McDonald’s Corporation

เกี่ยวกับบริษัท McDonald's Corporation

McDonald's Corporation เป็นเครือข่ายร้านอาหารจานด่วนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ก่อตั้งในปี 1940 โดยสองพี่น้อง Richard และ Maurice McDonald (McDonald Brothers) ที่เมืองซานเบอร์นาดิโน รัฐแคลิฟอร์เนีย ในปี 1955 Ray Kroc (Raymond Kroc) เข้าร่วมกิจการและเปลี่ยนบริษัทให้กลายเป็นแฟรนไชส์ระดับโลก McDonald’s เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE: MCD) เมื่อวันที่ 21 เมษายน 1965

McDonald’s เชี่ยวชาญในการขายเบอร์เกอร์ เฟรนช์ฟรายส์ เครื่องดื่ม และอาหารจานด่วนอื่น ๆ บริษัทกำลังขยายบริการดิจิทัลและโปรแกรมความภักดีของลูกค้า พร้อมปรับเมนูให้เข้ากับแต่ละตลาดท้องถิ่น

McDonald’s ยังเป็นเจ้าของพอร์ตอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยผลกำไรจำนวนมากมาจากการให้เช่าทรัพย์สินแก่แฟรนไชส์ ทำให้บริษัทไม่เพียงเป็นธุรกิจร้านอาหาร แต่ยังเป็นผู้เล่นหลักในด้านอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์อีกด้วย

กระแสการเงินหลักของ McDonald's Corporation

โมเดลธุรกิจของ McDonald’s มีเอกลักษณ์ โดยผสานองค์ประกอบของอุตสาหกรรมร้านอาหารดั้งเดิม เข้ากับการให้แฟรนไชส์และการบริหารอสังหาริมทรัพย์ แหล่งรายได้หลักของบริษัทแบ่งออกเป็น 4 ประเภท:

  • แฟรนไชส์: ร้าน McDonald’s จำนวนมากดำเนินการภายใต้ระบบแฟรนไชส์ ซึ่งบริษัทให้สิทธิ์พาร์ตเนอร์ในการใช้แบรนด์ สูตรอาหาร มาตรฐานคุณภาพ และแนวทางขององค์กร รายได้จากส่วนนี้มาจากค่าธรรมเนียมแรกเข้าเพื่อเปิดร้าน และเปอร์เซ็นต์รายได้จากยอดขายต่อเนื่อง
  • ร้านที่บริษัทเป็นผู้ดำเนินการ: รายได้จากธุรกิจนี้มาจากการขายผลิตภัณฑ์และบริการโดยตรง โดยบริษัทเป็นผู้รับผิดชอบต้นทุนในการดำเนินงานทั้งหมด
  • รายได้จากอสังหาริมทรัพย์: McDonald’s เป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์จำนวนมากที่ใช้ดำเนินกิจการร้านอาหาร ในฐานะเจ้าของหรือผู้เช่ารายใหญ่ บริษัทได้รับรายได้จากการให้เช่าหรือให้แฟรนไชส์เช่าช่วงที่ดิน ในบางกรณี McDonald’s เป็นเจ้าของที่ดิน ส่วนแฟรนไชส์สร้างอาคารเอง กลยุทธ์นี้ช่วยให้บริษัทมีรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืน ไม่ขึ้นอยู่กับความสำเร็จของร้านใดร้านหนึ่ง
  • ซัพพลายเชนและโลจิสติกส์: McDonald’s มักควบคุมห่วงโซ่อุปทานและการจัดซื้อจัดจ้างทั้งหมดของแฟรนไชส์ ทำให้สามารถสร้างรายได้เพิ่มเติมจากการบวกกำไรในสินค้าและวัตถุดิบ

โมเดลธุรกิจที่หลากหลายเช่นนี้ช่วยให้บริษัทเติบโตได้ในระยะยาว และลดการพึ่งพาแหล่งรายได้เพียงช่องทางเดียว ในรายงานผลประกอบการรายไตรมาส McDonald’s แยกรายได้จากร้านแฟรนไชส์และร้านที่บริษัทเป็นผู้ดำเนินการ ขณะที่รายได้จากกลุ่มอื่น ๆ จะถูกรวมไว้ภายใต้หมวด "Other Revenues"

รายงานผลประกอบการ Q3 2024 ของ McDonald's Corporation

เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม McDonald's เผยแพร่ผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2024 โดยเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2023 ดังนี้ (https://corporate.mcdonalds.com/corpmcd/investors/financial-information.html):

  • รายได้: 6.87 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (+3%)
  • กำไรสุทธิ: 2.25 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (-3%)
  • กำไรต่อหุ้น: 3.13 ดอลลาร์สหรัฐ (-1%)
  • กำไรจากการดำเนินงาน: 3.18 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (-1%)
  • รายได้จากร้านแฟรนไชส์: 4.09 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (+1%)
  • ค่าใช้จ่ายครอบครองร้านแฟรนไชส์: 646 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (+3%)
  • รายได้จากร้านที่บริษัทบริหาร: 2.65 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (+4%)
  • ค่าใช้จ่ายร้านที่บริษัทบริหาร: 2.24 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (+5%)
  • รายได้อื่น ๆ: 124 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (+39%)

ฝ่ายบริหารของ McDonald's ชี้ให้เห็นถึงพฤติกรรมผู้บริโภคที่ระมัดระวังและแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ ซึ่งกระทบยอดขาย ทำให้ผลประกอบการโดยรวมทรงตัว ในสหรัฐ ยอดขายสาขาเดิมเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.3% จากโปรโมชั่นและการปรับปรุงเมนูที่ประสบความสำเร็จ อย่างไรก็ตาม ตลาดต่างประเทศลดลง สะท้อนการเปลี่ยนแปลงความต้องการผู้บริโภค

สำหรับแนวโน้ม Q4 2024 ผู้บริหารไม่ได้ให้ตัวเลขคาดการณ์เฉพาะ แต่ระบุท่าทีระมัดระวังต่อสภาวะเศรษฐกิจในอนาคต โดยคาดว่าความท้าทายเกี่ยวกับการใช้จ่ายผู้บริโภคและผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน โดยเฉพาะในตลาดเกิดใหม่จะยังคงอยู่ แม้ต้องเผชิญความท้าทายเหล่านี้ ผู้นำ McDonald's ยังคงมองบวกต่อกลยุทธ์ระยะยาว โดยเน้นการฟื้นฟูความเชื่อมั่นผู้บริโภคหลังเหตุ E. coli ในสหรัฐ และเสริมความแข็งแกร่งด้านการตลาดเพื่อดึงดูดลูกค้า

รายงานผลประกอบการ Q4 2024 ของ McDonald's Corporation

เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ McDonald's เผยแพร่รายงาน Q4 2024 แสดงให้เห็นว่ารายได้คงที่เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2023 โดยมีตัวชี้วัดสำคัญดังนี้ (https://corporate.mcdonalds.com/corpmcd/investors/financial-information.html):

  • รายได้: 6.39 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (คงที่)
  • กำไรสุทธิ: 2.02 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (-1%)
  • กำไรต่อหุ้น: 2.8 ดอลลาร์สหรัฐ (คงที่)
  • กำไรจากการดำเนินงาน: 2.86 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (+2%)
  • รายได้จากร้านแฟรนไชส์: 3.96 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (+2%)
  • ค่าใช้จ่ายครอบครองร้านแฟรนไชส์: 635 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (คงที่)
  • รายได้จากร้านที่บริษัทบริหาร: 2.31 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (-7%)
  • ค่าใช้จ่ายร้านที่บริษัทบริหาร: 1.98 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (-5%)
  • รายได้อื่น ๆ: 120 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (+88%)

Chris Kempczinski ซีอีโอกล่าวว่า McDonald's เผชิญความท้าทายภายนอกใน Q4 2024 รวมถึงการใช้จ่ายผู้บริโภคที่ลดลงและเหตุปนเปื้อนแบคทีเรีย ซึ่งกระทบผลประกอบการโดยรวม แม้ผลโดยทั่วไปแข็งแกร่ง แต่ยังต่ำกว่าคาดในบางตลาดต่างประเทศและแนวโน้มการเดินร้านของลูกค้า

บริษัทยังคงมองบวกต่อการเติบโตของกำไรในปี 2025 ฝ่ายบริหารคาดว่าอัตรากำไรจากการดำเนินงานจะเพิ่มขึ้นสู่ช่วงกลางถึงสูง สูงกว่าอัตรากำไรปรับปรุง 46.3% ในปี 2024 ในปี 2025 McDonald's วางแผนเน้นเมนูราคาเข้าถึงง่ายเพื่อดึงดูดผู้บริโภคที่ระมัดระวังเรื่องงบประมาณ และเร่งการเปลี่ยนผ่านดิจิทัลระดับโลกซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนรายได้หลักอยู่แล้ว

แม้รายได้และกำไรสุทธิใน Q4 2024 ทรงตัว นักลงทุนตอบรับเชิงบวกต่อแนวโน้มปี 2025 ที่สดใส ส่งผลให้ราคาหุ้นปรับขึ้น 4.7% ภายหลังการเผยแพร่รายงาน

รายงานผลประกอบการ Q1 2025 ของ McDonald's Corporation

เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม McDonald's เผยแพร่รายงานผลประกอบการ Q1 2025 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม โดยมีตัวชี้วัดสำคัญดังนี้ (https://corporate.mcdonalds.com/corpmcd/investors/financial-information.html):

  • รายได้: 5.96 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (-3%)
  • กำไรสุทธิ: 1.87 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (-3%)
  • กำไรต่อหุ้น: 2.60 ดอลลาร์สหรัฐ (-2%)
  • กำไรจากการดำเนินงาน: 2.64 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (-3%)
  • รายได้จากร้านแฟรนไชส์: 3.66 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (-2%)
  • ค่าใช้จ่ายครอบครองร้านแฟรนไชส์: 620 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (-1%)
  • รายได้จากร้านที่บริษัทบริหาร: 2.31 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (-7%)
  • ค่าใช้จ่ายร้านที่บริษัทบริหาร: 2.13 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (-9%)
  • รายได้อื่น ๆ: 162 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (+78%)

ใน Q1 2025 McDonald's ประสบปัญหารุนแรง ส่งผลให้ยอดขายสาขาเดิมในสหรัฐลดลง 3.6% ซึ่งเป็นการลดลงสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2020 เกิดจากการลดลงของจำนวนลูกค้าที่ร้านเมื่อผู้บริโภครายได้ต่ำและปานกลางปรับลดงบประมาณท่ามกลางเงินเฟ้อและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ซีอีโอ Chris Kempczinski ระบุว่าลูกค้ารายได้สูงยังคงภักดี แต่ผู้บริโภคส่วนใหญ่ระมัดระวังมากขึ้น

ตลาดทั่วโลกก็ลดลงเช่นกัน โดยยอดขายสาขาเดิมทั่วโลกลดลง 1% ต่ำกว่าคาดการณ์การเติบโต 0.95% สาเหตุจากการใช้จ่ายผู้บริโภคลดลงอันเป็นผลจากเงินเฟ้อ ความไม่แน่นอนด้านภาษี และความท้าทายทางเศรษฐกิจในวงกว้าง โดยเห็นได้ชัดในสหรัฐและยุโรป อย่างไรก็ดี บางตลาดแฟรนไชส์ เช่น ตะวันออกกลางและญี่ปุ่น มียอดขายฟื้นตัวหลังการคว่ำบาตรในช่วงก่อนหน้า

ในด้านปฏิบัติการ McDonald's เผชิญแรงกดดันจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น การปรับขึ้นค่าแรงโดยเฉพาะในแคลิฟอร์เนียและราคาวัตถุดิบสูงขึ้นกระทบความสามารถทำกำไร นอกจากนี้ บริษัทยังประสบความท้าทายในการรักษาภาพลักษณ์ความคุ้มค่า: การขึ้นราคาได้รบกวนโปรแกรมสมคุณค่า ทำให้ลูกค้าทบทวนทางเลือก

ยิ่งไปกว่านั้น ความร่วมมือกับ Krispy Kreme ไม่เป็นไปตามคาด การเปิดตัวโดนัททั่วประเทศถูกระงับจากความต้องการต่ำกว่าคาด ทั้งสองบริษัทกำลังทบทวนกลยุทธ์ความร่วมมือใหม่

แม้จะเผชิญความท้าทายเหล่านี้ McDonald's ยังคงมุ่งมั่นสู่การเติบโตระยะยาว โดยมีแผนเปิดร้านใหม่ประมาณ 2,200 สาขาทั่วโลกในปี 2025 รวมราว 1,000 สาขาในจีน ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มจำนวนสาขารวม 4% การลงทุนสินทรัพย์ถาวรคาดอยู่ที่ 3.0–3.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ มุ่งสนับสนุนการเปิดสาขาใหม่และพัฒนาทางเทคโนโลยี

สถานการณ์ปัจจุบันของ McDonald's สะท้อนความยากลำบากทางเศรษฐกิจระยะสั้น ขณะที่โครงการริเริ่มเชิงกลยุทธ์และแผนขยายกิจการยืนยันความมุ่งมั่นของบริษัทรองรับการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว

การคาดการณ์จากผู้เชี่ยวชาญต่อหุ้น McDonald's Corporation ในปี 2025

  • Barchart: นักวิเคราะห์ 19 จาก 35 คนให้คำแนะนำ Strong Buy กับหุ้น McDonald's สองคนแนะนำ Moderate Buy และ 14 คนแนะนำ Hold ราคาเป้าหมายเพื่อการเติบโตของราคาหุ้นอยู่ที่ 370 ดอลลาร์สหรัฐ
  • MarketBeat: ผู้เชี่ยวชาญ 17 จาก 28 คนให้คำแนะนำ Buy ขณะที่ 11 คนแนะนำ Hold ราคาเป้าหมายเพื่อการเติบโตของราคาหุ้นอยู่ที่ 364 ดอลลาร์สหรัฐ
  • TipRanks: ผู้เชี่ยวชาญ 15 จาก 24 คนแนะนำ Buy ขณะที่ 9 คนแนะนำ Hold ราคาเป้าหมายเพื่อการเติบโตของราคาหุ้นอยู่ที่ 364 ดอลลาร์สหรัฐ
  • Stock Analysis: นักวิเคราะห์ 8 จาก 26 คนให้คำแนะนำ Strong Buy เก้า คนแนะนำ Buy และเก้า คนแนะนำ Hold ราคาเป้าหมายเพื่อการเติบโตของราคาหุ้นอยู่ที่ 364 ดอลลาร์สหรัฐ

ไม่มีนักวิเคราะห์คนใดแนะนำให้ขายหุ้น McDonald's ในขณะนี้

การคาดการณ์จากผู้เชี่ยวชาญต่อหุ้น McDonald's Corporation สำหรับปี 2025
Risk Warning: the result of previous trading operations do not guarantee the same results in the future

การคาดการณ์จากผู้เชี่ยวชาญต่อหุ้น McDonald's Corporation สำหรับปี 2025

การคาดการณ์ราคาหุ้น McDonald's Corporation สำหรับปี 2025

ในกรอบเวลาแบบรายสัปดาห์ หุ้น McDonald's เคลื่อนไหวในช่องขาขึ้น อย่างไรก็ดี มีสัญญาณไดเวอร์เจนซ์บนตัวชี้วัด MACD บ่งชี้ถึงการปรับฐานที่อาจเกิดขึ้น ข้อมูลในอดีตแสดงให้เห็นว่าหลังเกิดไดเวอร์เจนซ์ การปรับฐานมักไม่เกิน 20% จากราคาสูงสุด ปัจจุบันจึงมีสองสถานการณ์สำหรับปี 2025:

สถานการณ์หลัก: ราคาหุ้น McDonald's อาจปรับฐานลงสู่เส้นแนวโน้มราว 275 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 17% จากจุดสูงสุด ก่อนจะกลับมาฟื้นตัวและมีเป้าหมายที่ขอบบนของช่องที่ราว 360 ดอลลาร์สหรัฐ

สถานการณ์ทางเลือก: ราคาทะลุระดับต้าน 325 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งอาจบ่งชี้ถึงการเคลื่อนไหวขาขึ้นต่อเนื่องโดยไม่ปรับฐานล่วงหน้า ในกรณีนี้ ราคาหุ้น MCD อาจขึ้นสู่ขอบบนของช่องบริเวณ 350 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะเดียวกันสัญญาณไดเวอร์เจนซ์จะยังคงอยู่ การเด้งกลับจากขอบบนของช่องจะเป็นสัญญาณเริ่มต้นการปรับฐาน โดยมีเป้าหมายที่เส้นแนวโน้มราว 280 ดอลลาร์สหรัฐ

การวิเคราะห์และคาดการณ์หุ้น McDonald's Corporation สำหรับปี 2025
Risk Warning: the result of previous trading operations do not guarantee the same results in the future

การวิเคราะห์และคาดการณ์หุ้น McDonald's Corporation สำหรับปี 2025

ความเสี่ยงของการลงทุนในหุ้น McDonald's Corporation

เมื่อพิจารณาลงทุนในหุ้น McDonald's Corporation จำเป็นต้องคำนึงถึงความเสี่ยงที่บริษัทอาจเผชิญในปี 2025 ดังนี้:

  • ปัญหาความปลอดภัยอาหาร: การพบเชื้อ E. coli ในผลิตภัณฑ์ McDonald's เมื่อเดือนตุลาคม 2024 ส่งผลให้รายได้ลดลง 0.3% ใน Q4 และกระทบความเชื่อมั่นผู้บริโภค แม้ FDA ยืนยันว่าไม่มีปัญหาด้านความปลอดภัยในปัจจุบัน แต่เหตุการณ์นี้ชี้ถึงความเสี่ยงของโรคจากอาหาร ซึ่งกระทบยอดขายและชื่อเสียงแบรนด์
  • การแข่งขันที่เพิ่มขึ้นและความต้องการผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป: การแข่งขันสูงขึ้นและแนวโน้มผู้บริโภคมุ่งสู่ตัวเลือกเพื่อสุขภาพ McDonald's จึงวางแผนขยายเมนูไก่ รวมถึงการนำ Snack Wrap ที่ได้รับความนิยมกลับมา เพื่อตอบสนองความคาดหวังที่เปลี่ยนไป
  • ความท้าทายด้านปฏิบัติการ: การนำ Snack Wrap กลับเข้าสู่เมนูอาจเพิ่มยอดขายในสหรัฐ แต่เสี่ยงต่อปัญหาด้านปฏิบัติการเนื่องจากเวลาการเตรียมนานขึ้น ซึ่งอาจกระทบความรวดเร็วของการบริการและความพึงพอใจของลูกค้า
  • ปัจจัยเศรษฐกิจ: เงินเฟ้อยังคงกดดันการใช้จ่ายผู้บริโภค ซีอีโอ Chris Kempczinski คาดการณ์ปี 2025 ที่ท้าทายและระบุว่าลูกค้ารายได้ต่ำจะยังคงเผชิญปัญหาทางการเงิน ซึ่งอาจลดการใช้จ่ายด้านอาหารนอกบ้าน
โปรดทราบ!

การคาดการณ์ที่นำเสนอในส่วนนี้จะสะท้อนให้เห็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้แต่งเท่านั้น และจะไม่สามารถถูกพิจารณาว่าเป็นแนวทางสำหรับการซื้อขาย RoboForex ไม่รับผิดชอบสำหรับผลลัพธ์การซื้อขายที่อ้างอิงตามคำแนะนำการซื้อขายที่อธิบายเอาไว้ในบทวิจารณ์การวิเคราะห์เหล่านี้