Advanced Micro Devices (NASDAQ: AMD) และ The Walt Disney Company (NYSE: DIS) รายงานว่าในไตรมาสที่ผ่านมาทั้งสองบริษัทมีรายได้เติบโต ขณะที่ McDonald’s Corporation (NYSE: MCD) มีปัญหาในการรักษารายได้ให้เทียบเท่ากับปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม หลังการเผยแพร่รายงาน ผลปรากฏว่ามีเพียงหุ้น McDonald’s เท่านั้นที่ปรับตัวขึ้น
บทความนี้สรุปประเด็นสำคัญจากรายงานผลประกอบการรายไตรมาสของ AMD, McDonald’s และ Walt Disney รวมถึงการวิเคราะห์ทางเทคนิคของหุ้น AMD, MCD และ DIS ซึ่งเป็นพื้นฐานสำหรับการคาดการณ์ราคาหุ้นของ AMD, McDonald’s และ Walt Disney ในเดือนมีนาคม 2025
Advanced Micro Devices (AMD) ได้เผยแพร่รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ปี 2024 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าบริษัทมีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในหลายส่วนธุรกิจสำคัญ รายได้ของบริษัทในไตรมาสที่ 4 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 7.66 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 24% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม กำไรสุทธิลดลงเหลือ 482 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (0.29 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น) จาก 667 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (0.41 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น) ในปีก่อน
กลุ่ม Data Center มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยรายได้รายไตรมาสเพิ่มขึ้น 69% เมื่อเทียบกับปีก่อน อยู่ที่ 3.86 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ได้รับแรงหนุนจากความต้องการสูงของโปรเซสเซอร์ EPYC และกราฟิกแอคเซเลอเรเตอร์ Instinct อย่างไรก็ตาม ตัวเลขนี้ต่ำกว่าคาดการณ์ที่ 4.12 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ รายได้ Data Centre ตลอดทั้งปีเกือบเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า อยู่ที่ 12.60 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ในขณะเดียวกัน แผนก Gaming กลับเผชิญความยากลำบาก โดยรายได้รายไตรมาสลดลง 59% สู่ 563 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากยอดขายเซมิคอนดักเตอร์ที่ลดลง อย่างไรก็ดี ส่วน Client เพิ่มขึ้น 58% เป็น 2.30 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากความต้องการที่แข็งแกร่งของโปรเซสเซอร์ Ryzen
สำหรับไตรมาสที่ 1 ปี 2025 AMD คาดว่ารายได้จะอยู่ในช่วง 6.80 ถึง 7.40 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 7.01 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แม้มีการคาดการณ์ในเชิงบวก แต่บริษัทต้องเผชิญการแข่งขันรุนแรงในตลาดชิป AI โดยเฉพาะจาก NVIDIA นอกจากนี้ AMD ไม่ได้ให้ตัวเลขคาดการณ์อย่างเจาะจงสำหรับยอดขายชิป AI อีกต่อไป ซึ่งสร้างความกังวลให้แก่นักลงทุน
โดยภาพรวม แม้ว่าบริษัทจะทำรายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ และส่วนธุรกิจ Data centre กับ Client จะเติบโตอย่างมาก แต่ AMD ยังคงเผชิญอุปสรรคในแผนก Gaming และการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นในตลาด AI ความสำเร็จในอนาคตของบริษัทขึ้นอยู่กับความสามารถในการเอาชนะความท้าทายเหล่านี้ และใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมเพื่อบรรลุเป้าหมายเชิงกลยุทธ์
หุ้น Advanced Micro Devices ได้ปรับตัวลดลงตั้งแต่เดือนมีนาคม 2024 โดยราคาร่วงลง 50% ณ วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2025 อย่างไรก็ตาม อัตราการลดลงได้ชะลอตัวลงมากในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา และมีสัญญาณการบรรจบ (Convergence) บนอินดิเคเตอร์ MACD ซึ่งบ่งชี้ว่าราคาอาจปรับตัวขึ้นได้ เมื่อพิจารณาจากสถานะปัจจุบันของหุ้น Advanced Micro Devices ความเคลื่อนไหวของราคาในเดือนมีนาคม 2025 อาจเป็นไปได้ดังนี้
McDonald’s ได้เผยแพร่รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ปี 2024 ซึ่งมีผลลัพธ์คละเคล้ากันในหลายภูมิภาค รายได้ของบริษัทอยู่ที่ 6.40 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เทียบเท่ากับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ยอดขายสาขาเดิมทั่วโลกเพิ่มขึ้น 0.4% ได้แรงหนุนจากการเติบโต 4.1% ในกลุ่ม International Developmental Licensed Markets ขณะที่ยอดขายในสหรัฐฯ ลดลง 1.4% กำไรสุทธิรายไตรมาสลดลง 1% เหลือ 2.00 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนกำไรต่อหุ้น (EPS) ยังคงอยู่ที่ 2.86 ดอลลาร์สหรัฐ
การลดลงของยอดขายในสหรัฐฯ ส่วนหนึ่งเกิดจากการระบาดของเชื้อ E.coli จากผู้จัดหาหัวหอม ซึ่งบั่นทอนความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ในขณะเดียวกันตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะในตะวันออกกลางฟื้นตัวดีขึ้นหลังการยกเลิกการคว่ำบาตร (Boycott) ที่เกิดจากเหตุการณ์ภูมิรัฐศาสตร์
ในปี 2025 McDonald’s วางแผนรักษาอัตรากำไรจากการดำเนินงานให้อยู่ในช่วงปานกลางถึงสูง ซึ่งสูงกว่าอัตรากำไรที่ปรับปรุงแล้ว 46.3% ในปี 2024 บริษัทมีแผนเปิดสาขาใหม่ประมาณ 2,200 แห่ง ทำให้อัตราการเติบโตของจำนวนสาขาคาดว่าจะอยู่ที่ 4% แม้จะมีอุปสรรคอยู่บ้าง McDonald’s ยังคงมุ่งเน้นการตั้งราคาที่เหมาะสมและนวัตกรรมต่างๆ เช่น แพลตฟอร์ม McValue และการขยายเมนูไก่ เพื่อดึงดูดลูกค้าและเพิ่มส่วนแบ่งการตลาด
ดังนั้น แม้จะเผชิญความยากลำบากในตลาดสหรัฐฯ ในไตรมาสที่ 4 ปี 2024 สถานะที่แข็งแกร่งในตลาดต่างประเทศและโครงการเชิงกลยุทธ์ของบริษัทช่วยให้ McDonald’s มีศักยภาพในการเติบโตในปี 2025
หุ้น McDonald’s ซื้อขายอยู่ภายในช่องทางขาขึ้น (Ascending Channel) การเผยแพร่รายงานผลประกอบการรายไตรมาสทำให้ราคาหุ้นพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว จนเข้าใกล้แนวต้านที่ 316 USD เมื่อพิจารณาจากประสิทธิภาพของหุ้น McDonald’s Corp เราจะวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของการเคลื่อนไหวของราคาในเดือนมีนาคม 2025 ดังนี้
รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 1 ปีงบประมาณ 2025 ของ Walt Disney แสดงถึงการเริ่มต้นปีอย่างมั่นคง แม้ผลลัพธ์ในแต่ละส่วนธุรกิจจะหลากหลาย รายได้เพิ่มขึ้น 6% จากปีก่อน อยู่ที่ 247.00 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สูงกว่าที่คาดการณ์ การเติบโตนี้มาจากผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมของสตูดิโอภาพยนตร์ ซึ่งได้ออกฉายภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดสามอันดับแรกประจำปี 2024 ได้แก่ ‘Moana 2’, ‘Deadpool & Wolverine’ และ ‘Inside Out 2’ พร้อมการเติบโตอย่างมากในด้านความสามารถในการทำกำไรของบริการสตรีมมิง Disney+ และ Hulu กำไรต่อหุ้นที่ปรับปรุงแล้วเพิ่มขึ้น 44% สู่ 1.76 ดอลลาร์สหรัฐ เหนือกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ สะท้อนถึงการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพและแนวทางเชิงกลยุทธ์ของซีอีโอ Robert Alan Iger
อย่างไรก็ดี ยังมีอุปสรรคบางประการ: จำนวนสมาชิก Disney+ ลดลง 0.7 ล้านราย เหลือ 125.0 ล้านราย เนื่องจากการขึ้นราคาค่าบริการและปัจจัยตามฤดูกาล โดยฝ่ายบริหารคาดว่าจะลดลงเล็กน้อยในไตรมาสที่ 2 กลุ่ม Experiences ซึ่งรวมถึงสวนสนุกและธุรกิจเรือสำราญ ยังคงรักษากำไรจากการดำเนินงานที่ 3.10 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แม้ว่ารายได้จากสวนสนุกในสหรัฐฯ จะลดลง 5% เนื่องจากพายุเฮอริเคน และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการเปิดตัวเรือสำราญ Disney Treasure ขณะที่สวนสนุกในต่างประเทศมีรายได้เติบโต 28% กลุ่ม Sports ก็มีส่วนร่วมในการเติบโต โดยเพิ่มกำไรจากการดำเนินงาน 350 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากผลงานที่แข็งแกร่งของช่องเคเบิลทีวี ESPN
ปฏิกิริยาของนักลงทุนอยู่ในระดับระมัดระวัง โดยราคาหุ้นขยับลงจากจำนวนสมาชิกที่ลดลงและแนวโน้มที่ไม่สดใส อย่างไรก็ตาม การยืนยันว่าจะมีการเติบโตของกำไรต่อหุ้นเป็นเลขหลักเดียวในปี 2025 แสดงถึงความเชื่อมั่นของฝ่ายบริหารในแนวโน้มระยะยาวของบริษัท การที่ Disney เน้นปรับปรุงบริการสตรีมมิงผ่านการผสาน ESPN การใช้ประโยชน์จากคอนเทนต์ฟอร์มยักษ์ และการลงทุนเชิงกลยุทธ์ในสวนสนุก ย้ำถึงตำแหน่งที่แข็งแกร่งของบริษัท แต่ต้องแก้ปัญหาการรักษาสมาชิกและบริหารความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจเพื่อรักษาโมเมนตัมการเติบโต
ระหว่างเดือนสิงหาคมถึงพฤศจิกายน 2024 หุ้น Walt Disney ซื้อขายอยู่ภายในช่องทางขาขึ้นในกรอบเวลารายวัน (Daily Timeframe) ในเดือนพฤศจิกายน ราคาทะลุขอบบนของช่องทางและปรับตัวขึ้นเทียบเท่าความสูงของช่องทาง เนื่องจากปัจจัยกระตุ้นจากการเผยแพร่รายงานผลประกอบการ Q3 2024 ต่อมา ผลประกอบการ Q4 ทำให้ราคาย่อลงมาที่ขอบบนของช่องทาง ซึ่งขณะนี้กลายเป็นแนวรับ อย่างไรก็ตาม จากจำนวนสมาชิกที่ลดลงและแนวโน้มที่อ่อนแอสำหรับไตรมาสที่ 1 ปี 2025 มีความเสี่ยงที่ราคาจะหลุดระดับนี้ เมื่อพิจารณาจากสถานะของหุ้น The Walt Disney Company ความเป็นไปได้ของการเคลื่อนไหวของราคาในเดือนมีนาคม 2025 มีดังนี้
การคาดการณ์ที่นำเสนอในส่วนนี้จะสะท้อนให้เห็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้แต่งเท่านั้น และจะไม่สามารถถูกพิจารณาว่าเป็นแนวทางสำหรับการซื้อขาย RoboForex ไม่รับผิดชอบสำหรับผลลัพธ์การซื้อขายที่อ้างอิงตามคำแนะนำการซื้อขายที่อธิบายเอาไว้ในบทวิจารณ์การวิเคราะห์เหล่านี้