ภาษีนำเข้าอาจทำให้ Apple เสียค่าใช้จ่าย 900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่โครงการซื้อหุ้นคืนมูลค่า 110 พันล้านดอลลาร์สหรัฐอาจช่วยสนับสนุนหุ้น AAPL
Apple Inc. (NASDAQ: AAPL) รายงานผลประกอบการที่ดีกว่าคาดสำหรับไตรมาสที่ 2 ปีการเงิน 2025 โดยมีรายได้ถึง 95.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ 1.65 ดอลลาร์สหรัฐ การเติบโตนี้เกิดจากยอดขาย iPhone, iPad และ Mac ที่สูงกว่าคาด ขณะที่รายได้จากบริการเพิ่มขึ้น 12% แต่ยังต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ แม้จะมีผลประกอบการที่แข็งแกร่ง ราคาหุ้นของบริษัทกลับร่วงลงมากกว่า 4% หลังการประกาศ เนื่องจากนักลงทุนกังวลเกี่ยวกับต้นทุนที่อาจเกิดขึ้นจากการเก็บภาษีนำเข้า ซึ่งฝ่ายบริหารของ Apple ประเมินไว้ที่ 900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
บทความนี้วิเคราะห์ Apple Inc. โดยรวมถึงการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานจากรายงานทางการเงิน ข้อได้เปรียบและข้อจำกัด ตลอดจนการวิเคราะห์ทางเทคนิคของหุ้น Apple ซึ่งเป็นพื้นฐานสำหรับการคาดการณ์ราคาหุ้นของ Apple ในปี 2025
Apple Inc. เป็นบริษัทสัญชาติสหรัฐฯ ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1976 โดย Steve Jobs, Stephen Wozniak และ Ronald Wayne เดิมทีบริษัทมุ่งเน้นในการผลิตคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล แต่ต่อมาได้ขยายกิจการจนกลายเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภค Apple เป็นที่รู้จักในด้านอุปกรณ์ที่สร้างสรรค์ เช่น iPhone, iPad, Mac, Apple Watch และ AirPods รวมถึงระบบนิเวศที่เป็นเอกลักษณ์ซึ่งผสานผลิตภัณฑ์เหล่านี้เข้ากับบริการต่างๆ ของบริษัท
Apple เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 1980 ภายใต้สัญลักษณ์ AAPL โดยสามารถระดมทุนได้ประมาณ 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ถือเป็นหนึ่งใน IPO ที่ใหญ่ที่สุดและประสบความสำเร็จมากที่สุดในยุคนั้น
ความต้องการของนักลงทุนอย่างต่อเนื่องทำให้มูลค่าหุ้นของ Apple เพิ่มขึ้นอย่างมาก จนทำให้จำนวนผู้ที่สามารถซื้อหุ้นได้จำกัด ส่งผลให้บริษัทได้ทำการแตกหุ้นทั้งหมด 4 ครั้งในประวัติศาสตร์ เพื่อลดมูลค่าต่อหุ้นและเพิ่มจำนวนหุ้นที่หมุนเวียน ในปี 1980 มีหุ้นหมุนเวียนประมาณ 4.6 ล้านหุ้น และภายในปี 2024 ตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นเกิน 15 พันล้านหุ้นแล้ว
นอกเหนือจากความต้องการของนักลงทุน Apple ยังสร้างความต้องการในตลาดผ่านการซื้อหุ้นคืน กลยุทธ์นี้ช่วยลดจำนวนหุ้นที่หมุนเวียนในตลาด ส่งผลให้กำไรต่อหุ้นของหุ้นที่เหลือเพิ่มขึ้น และทำให้หลักทรัพย์น่าสนใจยิ่งขึ้นสำหรับนักลงทุน ตั้งแต่ปี 2012 ที่ Apple เริ่มโครงการซื้อหุ้นคืน บริษัทได้จัดสรรงบประมาณประมาณ 700 พันล้านดอลลาร์สหรัฐให้กับโครงการนี้ ทำให้เป็นหนึ่งในบริษัทที่มีมูลค่าการซื้อหุ้นคืนสูงที่สุดในโลก แซงหน้าบริษัทขนาดใหญ่ในอุตสาหกรรมอื่นๆ
การซื้อหุ้นคืนนี้ได้รับการสนับสนุนจากกระแสเงินสดอิสระ (free cash flow) และเงินกู้ที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ
ภาพชื่อบริษัท Apple Inc.ในปี 2025 รายได้ของบริษัทมาจากแหล่งต่อไปนี้:
สรุป: จากข้อมูลข้างต้น Apple สร้างรายได้ทั้งจากการผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ และจากการสมัครใช้บริการดิจิทัล รวมถึงค่าคอมมิชชั่นจากธุรกรรมใน App Store
Apple มีข้อได้เปรียบหลายประการเหนือคู่แข่ง ซึ่งช่วยให้บริษัทสามารถรักษาสถานะความเป็นผู้นำระดับโลกและทำกำไรได้สูงอย่างต่อเนื่อง:
ข้อได้เปรียบข้างต้นช่วยให้ Apple ยังคงรักษาความเป็นผู้นำในตลาดแม้ต้องเผชิญกับการแข่งขันจากบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำรายอื่น
อย่างไรก็ตาม Apple ก็มีจุดอ่อนบางประการที่คู่แข่งอาจใช้เป็นช่องทางได้ จุดอ่อนเหล่านี้เกี่ยวข้องกับลักษณะเฉพาะของระบบนิเวศของ Apple และปัจจัยภายนอก รวมถึงการถูกตรวจสอบด้านกฎหมายการแข่งขันทางการค้า:
จุดอ่อนเหล่านี้ก่อให้เกิดความเสี่ยงทั้งจากภายนอกและภายในต่อ Apple โดยเฉพาะการสอบสวนด้านการผูกขาดที่อาจส่งผลต่อการควบคุม App Store และนโยบายที่เกี่ยวข้องกับคู่แข่ง หากมีการสั่งปรับจำนวนมากหรือ Apple ต้องปรับเปลี่ยนโมเดลธุรกิจ อาจกระทบต่อกำไรและสถานะในตลาดอย่างรุนแรง ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2024 Apple ถูกปรับ 10.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยสหภาพยุโรป ซึ่งส่งผลเสียต่อกำไรของบริษัท และหน่วยงานกำกับดูแลยังคงเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด โดยมีความเป็นไปได้ที่ Apple อาจถูกปรับเพิ่มอีกถึง 10% ของรายได้รวมทั้งปี
Apple รายงานผลประกอบการทางการเงินที่แข็งแกร่งสำหรับไตรมาสที่ 4 ของปีการเงิน 2024 โดยมีตัวเลขสำคัญดังนี้ (https://investor.apple.com/investor-relations/default.aspx):
รายได้แยกตามหมวดสินค้า:
รายได้แยกตามภูมิภาค:
เกือบทุกตัวชี้วัด ยกเว้นกลุ่มอุปกรณ์สวมใส่ สินค้าในบ้าน และอุปกรณ์เสริม แสดงถึงการเติบโต อย่างไรก็ตาม กำไรสุทธิของบริษัทลดลงถึง 36% ซึ่งเป็นผลมาจากค่าปรับ 10.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐที่สหภาพยุโรปเรียกเก็บ หากไม่นับรายการจ่ายเพียงครั้งนี้ กำไรสุทธิของไตรมาสที่ 4 ปี 2024 จะเพิ่มขึ้น 8%
บริษัทให้การคาดการณ์ที่ระมัดระวังสำหรับไตรมาสถัดไป โดยคาดว่ารายได้จะเติบโตในระดับตัวเลขหลักเดียวตอนต้นถึงกลางเมื่อเทียบรายปี รายได้จากบริการคาดว่าจะเติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก และอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 46-47% เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า 1-2%
Apple เผยแพร่รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 1 ปี 2025 เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2025 โดยมีข้อมูลสำคัญดังนี้ (https://investor.apple.com/investor-relations/default.aspx):
รายได้แยกตามหมวดสินค้า:
รายได้แยกตามภูมิภาค:
สำหรับการคาดการณ์ไตรมาสที่ 2 ปี 2025 Apple คาดว่ารายได้จะเติบโตในช่วงตัวเลขหลักเดียวตอนต้นถึงกลาง เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีรายได้อยู่ที่ 95 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หมายความว่ารายได้อาจอยู่ในช่วงประมาณ 98 ถึง 100 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่รายได้จากบริการคาดว่าจะเติบโตในระดับตัวเลขหลักเดียวตอนต้น
จากข้อมูลรายงาน Apple ทำสถิติผลประกอบการใหม่ในไตรมาสที่ 1 ปี 2025 แม้จะมีความท้าทายในบางกลุ่ม รายได้รวมเพิ่มขึ้น 4% สู่ระดับสูงสุดตลอดกาลที่ 124.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ EPS เพิ่มขึ้น 10% สู่ 2.40 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
กลุ่ม iPhone มียอดขายลดลงเล็กน้อย แสดงถึงความต้องการที่ทรงตัวหรือตอบรับต่อ iPhone 16 รุ่นใหม่ที่ไม่แรงเท่าที่คาด ยอดขาย Mac เติบโตจากการเปิดตัวรุ่นใหม่ที่ใช้ชิป M4 ส่วน iPad ก็ขยายตัวจากการอัปเกรดโมเดลใหม่ ในทางตรงกันข้าม กลุ่มอุปกรณ์สวมใส่ สินค้าในบ้าน และอุปกรณ์เสริมลดลง ซึ่งอาจสะท้อนถึงภาวะอิ่มตัวของตลาดหรือการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น ด้านบริการของ Apple เช่น App Store, Apple Music, iCloud และ AppleCare เติบโตแข็งแกร่ง สะท้อนถึงแนวทางกลยุทธ์ใหม่ที่เน้นการกระจายรายได้ผ่านการสมัครใช้งานและบริการ
ยอดขายในจีนลดลงอย่างมากถึง 11% สะท้อนถึงปัญหาในตลาดนี้จากการแข่งขันในประเทศและปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์ อย่างไรก็ตาม การเติบโตในภูมิภาคอื่นๆ เช่น อเมริกา ยุโรป และเอเชียแปซิฟิก ช่วยชดเชยความสูญเสียบางส่วน โดยรวมแล้ว Apple แสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นและศักยภาพในการเติบโตแม้จะเผชิญกับความท้าทายทางการตลาด
Apple เผยแพร่รายงานผลประกอบการสำหรับไตรมาสที่ 2 ของปีการเงิน 2025 เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2025 โดยมีตัวเลขสำคัญเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2024 ดังนี้ (https://investor.apple.com/investor-relations/default.aspx):
รายได้แยกตามหมวดหมู่สินค้า:
รายได้แยกตามภูมิภาค:
รายงานของ Apple Inc. สำหรับไตรมาสที่ 2 ปี 2025 แสดงให้เห็นถึงการเติบโตที่มั่นคงควบคู่กับความท้าทายที่เริ่มปรากฏ รายได้แตะที่ 95.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่กำไรต่อหุ้นเพิ่มขึ้น 8% สู่ระดับ 1.65 ดอลลาร์สหรัฐ
กลุ่มบริการมีผลงานโดดเด่นเป็นพิเศษ โดยทำสถิติสูงสุด รายได้จากกลุ่มนี้อยู่ที่ 26.65 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบรายปี ตอกย้ำถึงความสำเร็จของกลยุทธ์ของ Apple ที่มุ่งเป้าไปยังแหล่งรายได้ประจำที่มั่นคง ณ เดือนพฤษภาคม 2025 จำนวนผู้สมัครใช้บริการแบบชำระเงินของ Apple เกิน 1 พันล้านบัญชีแล้ว
ยอดขาย iPhone ก็แสดงถึงความแข็งแกร่งเช่นกัน โดยเพิ่มขึ้น 2% สู่ 46.84 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แม้ยอดขายในจีนจะลดลง 2% แต่ก็ถูกชดเชยด้วยการเติบโตในภูมิภาคอเมริกาและญี่ปุ่น
อย่างไรก็ตาม บริษัทก็เผชิญกับความท้าทายสำคัญหลายประการ ประการแรกคือความเป็นไปได้ในการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าใหม่ในสหรัฐฯ โดยเฉพาะสินค้าที่ประกอบในประเทศจีน ซึ่งอาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อผลประกอบการในไตรมาสที่ 3 ปี 2025 ของปีการเงิน Apple ประเมินว่า หากมาตรการภาษีตามนโยบายการค้าสหรัฐฯ ฉบับปรับปรุงมีผลบังคับใช้ ต้นทุนรวมของบริษัทอาจแตะระดับ 900 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในไตรมาสเดือนมิถุนายน โดยค่าใช้จ่ายเหล่านี้เกี่ยวข้องกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นของชิ้นส่วนที่ผลิตหรือประกอบในจีน รวมถึงกลุ่มผลิตภัณฑ์หลัก เช่น iPhone, MacBook และอุปกรณ์เสริมต่างๆ การเพิ่มขึ้นของต้นทุนเหล่านี้อาจทำให้มาร์จิ้นลดลงและกระทบต่อราคาขายปลีกรวมถึงอุปสงค์ในตลาด ฝ่ายบริหารของ Apple แสดงความกังวลอย่างเปิดเผย โดยเฉพาะท่ามกลางความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์และความไม่แน่นอนในความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน บริษัทกำลังเร่งปรับโครงสร้างห่วงโซ่อุปทาน รวมถึงการย้ายการประกอบ iPhone สำหรับตลาดสหรัฐฯ ไปยังประเทศอินเดีย แต่กระบวนการนี้ต้องใช้ทั้งเวลาและเงินลงทุน
ประการที่สองคือ การสอบสวนกรณีผูกขาดและกระบวนการทางกฎหมายอย่างต่อเนื่องที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างและข้อกำหนดของ App Store สำหรับนักพัฒนาบุคคลที่สาม ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจบริการ เนื่องจาก App Store เป็นองค์ประกอบสำคัญของแหล่งรายได้ที่เติบโตเร็วนี้
ประการที่สามคือ ความล่าช้าในการเปิดตัวเวอร์ชันอัปเดตของผู้ช่วยเสียง Siri ซึ่งได้รับความคาดหวังสูงในบริบทของการพัฒนา AI แบบสร้างสรรค์ (generative AI) ความล่าช้านี้ก่อให้เกิดความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนวัตกรรมด้านประสบการณ์ผู้ใช้และความก้าวหน้าในเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ของ Apple
สำหรับแนวโน้มข้างหน้า Apple คาดว่ารายได้ในไตรมาสที่ 3 ปี 2025 จะเติบโตในระดับตัวเลขหลักเดียวตอนต้นถึงกลาง พร้อมอัตรากำไรขั้นต้นที่คาดไว้ระหว่าง 45.5% ถึง 46.5% การคาดการณ์นี้สะท้อนถึงความระมัดระวังอย่างมีความหวังของบริษัท ท่ามกลางแรงกดดันจากตลาดและความท้าทายภายใน
สำหรับผู้ถือหุ้นของ Apple การประกาศโครงการซื้อหุ้นคืนขนาดใหญ่ มูลค่า 110 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และการเพิ่มเงินปันผลรายไตรมาสขึ้น 4% เป็น 0.26 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น นับเป็นข่าวดีที่สร้างความเชื่อมั่นต่อทิศทางระยะยาวของบริษัท
ในกรอบเวลาแบบรายสัปดาห์ หุ้นของ Apple ซื้อขายอยู่ในช่องทางขาขึ้น (ascending channel) โดยในเดือนเมษายน 2025 ราคาหุ้น AAPL ดีดตัวจากเส้นแนวโน้มซึ่งเคยทำหน้าที่เป็นแนวรับ สัญญาณนี้แสดงถึงจุดสิ้นสุดของการปรับฐานราคา และการกลับเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้นอีกครั้ง จากพฤติกรรมราคาหุ้น Apple ปัจจุบัน ความเป็นไปได้ของการเคลื่อนไหวราคาสำหรับปี 2025 มีดังนี้:
แนวโน้มเชิงบวก (กรณีพื้นฐาน) สำหรับหุ้น AAPL คาดว่าจะทะลุแนวต้านที่ระดับ 210 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งอาจกระตุ้นให้ราคาพุ่งต่อไปสู่จุดสูงสุดในอดีตที่ 260 ดอลลาร์สหรัฐ การคาดการณ์นี้ได้รับแรงหนุนจากโครงการซื้อหุ้นคืนขนาดใหญ่ที่มีงบประมาณกว่า 110 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
แนวโน้มเชิงลบ (กรณีทางเลือก) สำหรับหุ้น Apple คาดว่าจะหลุดแนวรับที่ระดับ 195 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งในกรณีนี้ ราคาหุ้น AAPL อาจลดลงไปถึง 165 ดอลลาร์สหรัฐ
การวิเคราะห์และคาดการณ์หุ้น AAPL สำหรับปี 2025การคาดการณ์ที่นำเสนอในส่วนนี้จะสะท้อนให้เห็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้แต่งเท่านั้น และจะไม่สามารถถูกพิจารณาว่าเป็นแนวทางสำหรับการซื้อขาย RoboForex ไม่รับผิดชอบสำหรับผลลัพธ์การซื้อขายที่อ้างอิงตามคำแนะนำการซื้อขายที่อธิบายเอาไว้ในบทวิจารณ์การวิเคราะห์เหล่านี้