คำตัดสินของฝ่ายบริหารสหรัฐในการปรับขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมจาก 25% เป็น 50% พร้อมกับการลงทุนในภาค AI ที่แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ได้กระตุ้นความสนใจของนักลงทุนอย่างมาก ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมในบทวิเคราะห์และการคาดการณ์ดัชนีโลกประจำวันที่ 5 มิถุนายน 2025
ข้อมูลดัชนี S&P composite PMI ที่แข็งแกร่งอาจส่งเสริมมุมมองว่าธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) จะยังไม่รีบปรับลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งอาจจำกัดการเติบโตของตลาดหุ้นในระยะสั้น โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย อย่างไรก็ตาม เมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัว หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรม การเงิน และพลังงาน อาจได้รับผลประโยชน์
จากการขยายตัวของภาค AI และการนำเทคโนโลยีมาใช้มากขึ้น การใช้จ่ายในอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ในไตรมาสแรกปี 2025 มีส่วนสนับสนุน GDP สหรัฐในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะเดียวกัน การตัดสินใจเพิ่มภาษีเหล็กและอะลูมิเนียมยังผลักดันราคาหุ้นในภาคโลหะให้สูงขึ้นอีกด้วย
ดัชนี US 30 ทะลุระดับแนวต้านที่ 42,590.0 โดยเส้นแนวรับได้ขยับขึ้นไปที่ 41,810.0 แนวโน้มของ US 30 ยังคงไม่มั่นคง และนับเป็นการเปลี่ยนทิศทางเป็นครั้งที่สาม แม้ว่าจะมีสัญญาณทางเทคนิคของการเริ่มต้นแนวโน้มขาขึ้น แต่ความเป็นไปได้ที่จะเข้าสู่ช่วงการเคลื่อนไหวในกรอบแนวราบยังคงสูง
สถานการณ์ที่เป็นไปได้สำหรับการคาดการณ์ราคาของ US 30:
ดัชนี US 500 ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยระดับแนวรับขยับขึ้นมาอยู่ที่ 5,845.0 และแนวต้านที่ 5,985.0 ราคากำลังพยายามทะลุแนวต้านปัจจุบัน
สถานการณ์ที่เป็นไปได้สำหรับการคาดการณ์ราคาของ US 500:
ดัชนี US Tech ทะลุระดับแนวต้านที่ 21,435.0 โดยยังไม่มีแนวต้านใหม่เกิดขึ้น ส่วนระดับแนวรับได้ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 21,020.0 ในขณะที่แนวต้านเดิมยังคงอยู่ที่ 21,435.0 หากราคาสามารถยืนเหนือระดับนี้ได้อย่างมั่นคง มีแนวโน้มสูงที่จะเกิดแนวโน้มขาขึ้นในระยะกลาง
สถานการณ์ที่เป็นไปได้สำหรับการคาดการณ์ราคาของ US Tech:
แม้ว่าการเติบโตของ PMI จะชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า แต่ระดับยังคงอยู่เหนือ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง การเติบโตที่ช้าลงอาจเพิ่มความคาดหวังว่าสถาบันการเงินของญี่ปุ่น (BoJ) จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ซึ่งอาจช่วยสนับสนุนตลาดหุ้น
อย่างไรก็ตาม การที่ไม่มีการเร่งตัวของการเติบโตอาจทำให้นักลงทุนลดความคาดหวังลง หากความชะลอตัวยังคงดำเนินต่อไป อาจนำไปสู่การปรับฐานของราคาหุ้นในกลุ่มบริษัทที่อ่อนไหวต่ออุปสงค์ภายในประเทศและกิจกรรมทางเศรษฐกิจ
ดัชนี JP 225 กำลังดีดตัวจากระดับแนวรับที่ 36,590.0 และมุ่งหน้าสู่แนวต้านที่ 38,765.0 หากสามารถทะลุระดับนี้ได้ จะยืนยันการต่อเนื่องของแนวโน้มขาขึ้นระยะกลาง ในขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณของการกลับตัวของแนวโน้ม
สถานการณ์ที่เป็นไปได้สำหรับการคาดการณ์ราคาของ JP 225:
ดัชนี PMI ภาคการผลิตของเยอรมนีในเดือนพฤษภาคม 2025 อยู่ที่ 48.3 ต่ำกว่าการคาดการณ์ที่ 48.8 และต่ำกว่าค่าก่อนหน้าที่ 48.4 ซึ่งเพิ่มความกังวลในหมู่นักลงทุน เนื่องจากดัชนีนี้อยู่ต่ำกว่าเกณฑ์ 50 มาเป็นเวลานาน ซึ่งเป็นเส้นแบ่งระหว่างการขยายตัวและการหดตัวของกิจกรรมทางธุรกิจ
ข้อมูล PMI ล่าสุดยืนยันถึงการชะลอตัวของภาคการผลิตในเยอรมนี นักลงทุนควรระมัดระวัง เนื่องจากความกดดันต่อตลาดหุ้นเยอรมนียังอาจคงอยู่ โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมหนัก กลุ่มผู้ส่งออก และกลุ่มยานยนต์
ดัชนี DE 40 ได้สร้างแนวรับและแนวต้านสำคัญ โดยมีแนวต้านที่ 24,305.0 และแนวรับที่ประมาณ 23,270.0 สถานการณ์ปัจจุบันในตลาดชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มขาขึ้นที่มั่นคง ซึ่งเพิ่มโอกาสในการทำจุดสูงสุดใหม่
สถานการณ์ที่เป็นไปได้สำหรับการคาดการณ์ราคาของ DE 40:
ดัชนี US 30 ทะลุระดับแนวต้านและพลิกกลับแนวโน้มขาลงที่เริ่มก่อตัวไว้ก่อนหน้า ดัชนี JP 225 ของญี่ปุ่นกำลังมุ่งหน้าสู่ระดับแนวต้านปัจจุบัน ดัชนี US 500 และ US Tech ยังคงเคลื่อนไหวในทิศทางขาขึ้น ส่วนดัชนี DE 40 ของเยอรมนีมุ่งหน้าสู่จุดสูงสุดใหม่อีกครั้ง ความสนใจของนักลงทุนจะหันไปยังข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐในเร็วๆ นี้ ซึ่งจะเป็นตัวชี้วัดเศรษฐกิจสำคัญภายหลังจากรายงาน GDP ล่าสุด หากข้อมูลออกมาแสดงผลลัพธ์หลากหลาย การตีความของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) จะกลับมาเป็นปัจจัยสำคัญอีกครั้ง
การคาดการณ์ที่นำเสนอในส่วนนี้จะสะท้อนให้เห็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้แต่งเท่านั้น และจะไม่สามารถถูกพิจารณาว่าเป็นแนวทางสำหรับการซื้อขาย RoboForex ไม่รับผิดชอบสำหรับผลลัพธ์การซื้อขายที่อ้างอิงตามคำแนะนำการซื้อขายที่อธิบายเอาไว้ในบทวิจารณ์การวิเคราะห์เหล่านี้