ดัชนีหุ้นทั่วโลกลดลง โดยบางดัชนีเริ่มกลับทิศเข้าสู่แนวโน้มขาลง ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมในบทวิเคราะห์และการคาดการณ์ประจำวันที่ 22 พฤษภาคม 2025
ตัวเลขยังคงไม่เปลี่ยนแปลงจากสัปดาห์ก่อนหน้า และอยู่ในระดับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ แสดงให้เห็นถึงตลาดแรงงานที่มีเสถียรภาพ โดยยังไม่พบสัญญาณของการปรับตัวดีขึ้นหรือลดลง โดยทั่วไปตัวเลขที่ต่ำกว่า 250,000–270,000 ถือว่าอยู่ในระดับดี และระดับ 229,000 สะท้อนว่าการเลิกจ้างงานยังไม่เพิ่มขึ้น
การประมูลพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 20 ปี มูลค่า 16 พันล้านดอลลาร์ไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ ความต้องการของนักลงทุนต่ำ เนื่องจากต้องการซื้อพันธบัตรที่ราคาต่ำกว่า อัตราผลตอบแทนพุ่งขึ้นเป็น 5.047% สูงกว่าที่คาดไว้ที่ 5.035% นับเป็นครั้งที่สองในประวัติศาสตร์ที่พันธบัตรอายุ 20 ปีให้ผลตอบแทนเกิน 5%
ดัชนี US 30 หลุดแนวรับที่ 41,940.0 โดยแนวต้านขยับขึ้นเป็น 42,850.0 การพูดถึงแนวโน้มขาขึ้นในตอนนี้ยังถือว่าเร็วเกินไป เนื่องจากราคายังไม่ยืนต่ำกว่าระดับแนวรับที่เพิ่งหลุดไป
สถานการณ์ที่เป็นไปได้:
ดัชนี US 500 เริ่มเข้าสู่ช่วงพักฐาน โดยแนวรับเลื่อนมาอยู่ที่ 5,640.0 และแนวต้านอยู่ที่ 5,960.0 ราคามีแนวโน้มพักฐานเล็กน้อยโดยไม่เปลี่ยนทิศทางหลัก และมีโอกาสกลับสู่แนวโน้มขาขึ้นต่อไป แนวโน้มขาขึ้นปัจจุบันอาจพัฒนาเป็นระยะกลาง
สถานการณ์ที่เป็นไปได้:
ดัชนี US Tech มีแนวต้านอยู่ที่ 21,435.0 และแนวรับเลื่อนขึ้นมาอยู่ที่ 19,980.0 ราคายังคงเคลื่อนไหวเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ซึ่งส่งสัญญาณว่าแนวโน้มขาขึ้นอาจแข็งแรงขึ้น และกลายเป็นแนวโน้มระยะกลาง
สถานการณ์ที่เป็นไปได้:
ดุลการค้าสะท้อนส่วนต่างระหว่างการส่งออกและการนำเข้า หากเป็นบวก (เกินดุล) หมายถึงประเทศมีรายรับจากการส่งออกมากกว่าการนำเข้า ซึ่งโดยทั่วไปถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี แต่หากเป็นลบ (ขาดดุล) เช่นในกรณีนี้ที่ -115.8 พันล้านเยน หมายความว่าญี่ปุ่นนำเข้ามากกว่าส่งออก
ข้อมูลนี้เป็นลบต่อภาพรวมตลาดหุ้นญี่ปุ่นในระยะสั้น เพราะอาจกระตุ้นแรงขายในหุ้นกลุ่มที่พึ่งพาการส่งออก กดดันค่าเงินเยน และเพิ่มความผันผวนของตลาดในช่วงรอฟังความเคลื่อนไหวจากรัฐบาลหรือธนาคารกลางญี่ปุ่น
ดัชนี JP 225 ทะลุกรอบไซด์เวย์ระยะกลาง และทะลุแนวต้านที่ 38,130.0 ได้สำเร็จ ซึ่งอาจบ่งชี้ถึงจุดเริ่มต้นของการกลับตัวขึ้น แต่ก็ยังมีความเป็นไปได้ว่าจะเป็น false breakout มีการสร้างแนวต้านใหม่ที่ 38,765.0 ซึ่งเพิ่มน้ำหนักให้กับแนวโน้มขาขึ้น
สถานการณ์ที่เป็นไปได้:
การลดลงของ PPI เพิ่มโอกาสที่ ECB จะคงหรือเร่งการผ่อนคลายนโยบายการเงิน (เช่น การลดดอกเบี้ย) ซึ่งถือเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้น เพราะช่วยลดต้นทุนทางการเงิน และกระตุ้นการลงทุน
นักลงทุนจะจับตาข้อมูลเศรษฐกิจมหภาค เช่น CPI, PMI และตัวเลขการส่งออกอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินความยั่งยืนของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของเยอรมนี อย่างไรก็ตาม หากราคาปรับลงต่อเนื่องอาจสะท้อนความอ่อนแอของเศรษฐกิจจริง โดยเฉพาะในภาคการผลิต ซึ่งอาจส่งผลลบต่อหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรม ส่งออก และสินค้าเพื่อการลงทุน
ดัชนี DE 40 สร้างแนวต้านที่ 24,100.0 และมีแนวรับที่ 23,440.0 ขณะนี้ราคากำลังปรับตัวลงเล็กน้อยในกรอบการพักฐาน อย่างไรก็ตาม วัฏจักรการเติบโตใหม่ยังมีโอกาสดำเนินต่อไป
สถานการณ์ที่เป็นไปได้:
หลังจากผลการประมูลพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 20 ปีออกมาแย่ ดัชนีหุ้นทั่วโลกส่วนใหญ่เริ่มเข้าสู่ช่วงการพักฐานและปรับตัวลง ดัชนี US 30 หลุดแนวรับอีกครั้ง บ่งชี้ว่าแนวโน้มขาขึ้นที่เพิ่งเกิดขึ้นอาจกลับทิศ ส่วนการร่วงลงของดัชนี JP 225 เกิดจากดุลการค้าติดลบ ซึ่งถือเป็นสัญญาณลบต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นในภาพรวม
การคาดการณ์ที่นำเสนอในส่วนนี้จะสะท้อนให้เห็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้แต่งเท่านั้น และจะไม่สามารถถูกพิจารณาว่าเป็นแนวทางสำหรับการซื้อขาย RoboForex ไม่รับผิดชอบสำหรับผลลัพธ์การซื้อขายที่อ้างอิงตามคำแนะนำการซื้อขายที่อธิบายเอาไว้ในบทวิจารณ์การวิเคราะห์เหล่านี้