ข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ และข้อตกลงด้านภาษีศุลกากรร่วมกับจีนจุดประกายความหวังให้แก่นักลงทุน ขณะนี้สายตาทุกคู่จับจ้องไปยังธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งจะเป็นผู้ขยับต่อไป ติดตามรายละเอียดทั้งหมดในบทวิเคราะห์และการคาดการณ์สำหรับวันที่ 15 พฤษภาคม 2025
อัตราเงินเฟ้อประจำปีของสหรัฐฯ ชะลอลงอยู่ที่ 2.3% ในเดือนเมษายน ต่ำกว่าคาดการณ์ที่ 2.4% ถือเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่ต้นปี 2021 ขณะที่ Core CPI ทรงตัวที่ 2.8% โดยทั้งสองดัชนีเพิ่มขึ้น 0.2% เมื่อเทียบรายเดือน ข้อมูลที่อ่อนกว่าคาดนี้ลดแรงกดดันต่อธนาคารกลางสหรัฐฯ ในการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดเพิ่มเติม ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง และเพิ่มความหวังว่า Fed อาจลดดอกเบี้ยเร็วขึ้น หากมาตรการภาษีไม่รบกวนกระบวนการลดเงินเฟ้อ
ขณะนี้นักลงทุนจะจับตาข้อมูลดัชนี PPI ในวันศุกร์นี้ และแถลงการณ์จาก Fed เพื่อจับทิศทางของนโยบายการเงิน หุ้นเทคโนโลยี หุ้นกลุ่มเติบโต และอสังหาริมทรัพย์อาจได้แรงหนุนจากต้นทุนทางการเงินที่ลดลง
ดัชนี US 30 เคลื่อนไหวเข้าใกล้แนวต้านที่ 42,535.0 ตราบใดที่แนวรับที่ 37,060.0 ยังไม่ถูกทำลาย ราคามีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบด้านข้าง อย่างไรก็ตาม ควรสังเกตว่าดัชนีได้ฟื้นตัวจากการขาดทุนตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน 2025 ผ่านการปรับฐานระยะสั้น
สถานการณ์ที่เป็นไปได้:
ดัชนี US 500 ปรับตัวขึ้นเป็นครั้งแรกของปี 2025 หลังจากทำสถิติปรับขึ้นต่อเนื่องยาวนานที่สุด ราคากำลังอยู่ในช่วงพักฐานภายใต้แนวโน้มขาขึ้น โดยมีแนวรับใหม่อยู่ที่ 5,585.0 และแนวต้านยังไม่ถูกกำหนดอย่างชัดเจนหลังจากทะลุระดับ 5,700.0 ขึ้นมา
สถานการณ์ที่เป็นไปได้:
ดัชนี US Tech ทะลุแนวต้านที่ 20,180.0 และแนวรับใหม่อยู่ที่ 19,980.0 ราคาสามารถยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วัน ซึ่งมักถูกมองว่าเป็นสัญญาณทางเทคนิคของการกลับตัวขึ้นอีกครั้ง
สถานการณ์ที่เป็นไปได้:
ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดจำนวน 3.678 ล้านล้านเยนหมายความว่าในเดือนเมษายน ญี่ปุ่นมีรายได้จากการส่งออกสุทธิและรายได้จากการลงทุนมากกว่าการนำเข้าและการจ่ายเงินให้กับต่างชาติ โดยมียอดเกินดุลลดลงจาก 4.061 ล้านล้านเยนในเดือนมีนาคม สะท้อนถึงความต้องการจากต่างประเทศที่อ่อนแอลงหรือการนำเข้าที่มีต้นทุนสูงขึ้น
นักลงทุนมองว่าบัญชีเดินสะพัดที่เกินดุลเป็นเครื่องชี้วัดความมั่นคงทางเศรษฐกิจ เพราะแสดงให้เห็นว่าญี่ปุ่นหารายได้จากโลกภายนอกได้มากกว่าที่ใช้จ่าย การเกินดุลที่แคบลงอาจทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มอุปสงค์ทั่วโลก และอาจเพิ่มความผันผวนในตลาด โดยเฉพาะในกลุ่มหุ้นส่งออกและตราสารทุนที่เกี่ยวข้อง
ดัชนี JP 225 ทะลุกรอบไซด์เวย์ระยะกลางได้สำเร็จ แม้แนวโน้มโดยรวมยังเป็นขาลง แต่ราคาสามารถทะลุแนวต้านที่ 38,130.0 ได้ ซึ่งอาจเป็นการทะลุเทียม (false breakout) แต่หากไม่ใช่ แนวโน้มใหม่อาจกลายเป็นขาขึ้น โดยมีแนวต้านใหม่อยู่ที่ 38,765.0
สถานการณ์ที่เป็นไปได้:
ข้อมูล CPI ที่สอดคล้องกับคาดการณ์ และอัตราเงินเฟ้อที่ชะลอลงเมื่อเทียบรายปี ช่วยลดแรงกดดันต่อ ECB ในการใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวด ซึ่งสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีสำหรับหุ้นกลุ่มที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย เช่น เทคโนโลยีและอสังหาริมทรัพย์ อัตรา CPI ที่ทรงตัวทำให้ธนาคารสามารถคาดการณ์อัตรากำไรสุทธิที่มั่นคงโดยไม่ต้องปรับอัตราดอกเบี้ยอย่างฉับพลัน
เงินเฟ้อที่นิ่งช่วยให้ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลอื่น ซึ่งอาจลดความสามารถในการแข่งขันของผู้ส่งออกเล็กน้อย แต่ด้วยอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ผลกระทบด้านลบจึงไม่รุนแรง โดยรวมแล้ว ข้อมูล CPI อยู่ในระดับที่สบายต่อภาวะตลาด ไม่จำเป็นต้องใช้มาตรการฉุกเฉิน และสนับสนุนแนวโน้มขาขึ้นอย่างระมัดระวังในตลาดหุ้นเยอรมนี
ดัชนี DE 40 ทะลุแนวต้านที่ 23,435.0 โดยมีแนวรับใหม่อยู่ที่ 23,045.0 และแนวต้านใหม่ที่ 23,625.0 ซึ่งอาจเป็นจุดเริ่มต้นของวัฏจักรการเติบโตใหม่ และมีโอกาสทำจุดสูงสุดใหม่
สถานการณ์ที่เป็นไปได้:
ดัชนีหุ้นทั่วโลกส่วนใหญ่มีแรงส่งขาขึ้น โดยดัชนี US 500 ปรับตัวขึ้นครั้งแรกนับตั้งแต่ต้นปี 2025 ขณะที่ดัชนี US 30 ยังไม่สามารถทะลุแนวต้านได้ ท่ามกลางเงินเฟ้อที่ชะลอลงทั้งในสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป นักลงทุนกำลังรอฟังถ้อยแถลงจากธนาคารกลางอย่าง Fed และ ECB นอกจากนี้ ตลาดยังจับตาการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ กับ EU ว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงด้านภาษีตอบโต้ได้หรือไม่
การคาดการณ์ที่นำเสนอในส่วนนี้จะสะท้อนให้เห็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้แต่งเท่านั้น และจะไม่สามารถถูกพิจารณาว่าเป็นแนวทางสำหรับการซื้อขาย RoboForex ไม่รับผิดชอบสำหรับผลลัพธ์การซื้อขายที่อ้างอิงตามคำแนะนำการซื้อขายที่อธิบายเอาไว้ในบทวิจารณ์การวิเคราะห์เหล่านี้