การตัดสินใจของสหรัฐฯ ในการเรียกเก็บภาษีนำเข้าใหม่ ส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลกร่วงลงทั้งหมด ค้นหารายละเอียดเพิ่มเติมในบทวิเคราะห์และการคาดการณ์สำหรับดัชนีโลกประจำวันที่ 27 มีนาคม 2025
การคาดการณ์ดัชนีสหรัฐ: US 30, US 500, US Tech
ตัวเลขที่เป็นบวก 0.9% แสดงให้เห็นว่าปริมาณคำสั่งซื้อมีการขยายตัว โดยผลลัพธ์สูงกว่าการคาดการณ์ที่ -1.1% ตัวเลขนี้เป็นตัวชี้วัดการผลิตภาคอุตสาหกรรมและความแข็งแกร่งของภาคการผลิตในสหรัฐฯ ตัวเลขที่แข็งแกร่งมักบ่งชี้ถึงกิจกรรมเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ซึ่งอาจเป็นแรงหนุนต่อราคาหุ้น
อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงจากมาตรการภาษีใหม่ของสหรัฐฯ ต่อประเทศอื่น ๆ ยังคงกดดันตลาด ทางการกำลังออกค่าธรรมเนียม 3.5 ล้านดอลลาร์ต่อการเข้าเทียบท่าของเรือจีนในท่าเรือสหรัฐฯ มาตรการนี้มีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นอุตสาหกรรมต่อเรือของสหรัฐฯ โดยภาษีดังกล่าวอาจสร้างรายได้ระหว่าง 40 ถึง 52 พันล้านดอลลาร์ต่อปี ตามข้อมูลจาก Clarksons Research Services ทั้งหมดนี้อาจจุดชนวนให้เกิดการเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อรอบใหม่ ซึ่งจะไม่เอื้อให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ ปรับลดอัตราดอกเบี้ย
หลังจากการปรับฐาน ดัชนี US 30 กลับมาลดลงอีกครั้งโดยไม่สามารถแตะระดับแนวต้านที่ 42,910.0 ได้ แนวโน้มขาลงยังคงดำเนินต่อไป โดยราคามีแนวโน้มลดลงต่อเนื่องเพื่อทดสอบจุดต่ำสุดใหม่ในรอบ 6 เดือน
การคาดการณ์ราคา US 30 มีสองสถานการณ์ดังนี้:
ดัชนี US 500 ดีดตัวจากแนวต้านที่ 5,785.0 และมีแนวโน้มลดลงต่อในระยะกลาง แรงซื้อยังไม่เพียงพอที่จะพลิกกลับแนวโน้ม
การคาดการณ์ราคา US 500 มีสองสถานการณ์ดังนี้:
ดัชนี US Tech ทะลุแนวต้านที่ 20,240.0 และกลับขึ้นมายืนเหนือค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วันได้ชั่วคราว อย่างไรก็ตาม ดัชนีก็กลับตัวลงต่ำกว่าระดับดังกล่าวในทันที ก่อให้เกิดรูปแบบ “False Breakout” ระดับแนวรับถูกปรับมาอยู่ที่ 19,515.0 ซึ่งมีแนวโน้มว่าราคาจะทะลุระดับนี้ มุ่งหน้าลงสู่ 18,405.0
การคาดการณ์ราคา US Tech มีสองสถานการณ์ดังนี้:
เมื่ออัตราดอกเบี้ยปรับตัวสูงขึ้น พันธบัตรจะกลายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากกว่าหุ้น ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดการไหลออกของเงินทุนจากตลาดหุ้น จนถึงตอนนี้ ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ได้ดำเนินนโยบายอัตราดอกเบี้ยต่ำเป็นพิเศษ (เกือบศูนย์) หากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรยังเพิ่มขึ้น นั่นอาจหมายถึงการสิ้นสุดของยุค "เงินถูก" ในญี่ปุ่น และ BOJ อาจเตรียมขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มเติม
โดยรวม ตลาดหุ้นญี่ปุ่นอาจเผชิญกับความผันผวนเพิ่มขึ้น และการจัดสรรพอร์ตใหม่ของนักลงทุนจากหุ้นไปยังพันธบัตรหรือหุ้นกลุ่มการเงิน หากความคาดหวังต่ออัตราดอกเบี้ยยังเพิ่มขึ้น
ดัชนี JP 225 ปรับตัวขึ้นกว่า 5% จากจุดต่ำสุดในรอบ 6 เดือน ขณะนี้ราคากำลังเข้าใกล้ระดับแนวต้านที่ 38,485.0 หากไม่สามารถทะลุแนวต้านนี้ได้ มีแนวโน้มที่จะเข้าสู่ช่วงสะสมหรือเปลี่ยนไปเคลื่อนไหวในกรอบไซด์เวย์ อย่างไรก็ตาม หากราคาทะลุแนวรับที่ 36,260.0 แนวโน้มขาลงอาจกลับมาแข็งแกร่งและเป็นแนวโน้มหลัก
การคาดการณ์ราคา JP 225 มีสองสถานการณ์ดังนี้:
บรรยากาศทางธุรกิจที่มีเสถียรภาพหรือปรับตัวดีขึ้น อาจส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นของบริษัทในภาคอุตสาหกรรม ก่อสร้าง หรือสินค้าอุปโภคบริโภคที่ได้รับประโยชน์จากอุปสงค์ภายในประเทศที่เพิ่มขึ้น โดยรวมแล้ว การที่ค่าดัชนี ifo สูงกว่าระดับเดิมเพียงเล็กน้อย สะท้อนถึงการฟื้นตัวของความเชื่อมั่นทางธุรกิจ ซึ่งอาจสนับสนุนตลาดหุ้นเยอรมันได้ โดยเฉพาะในภาคที่อ่อนไหวต่ออุปสงค์ในประเทศ
ขณะเดียวกัน ทางการสหรัฐฯ มีแผนเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ต่างประเทศในอัตรา 25% ซึ่ง เยอรมนีจะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงที่สุด ส่งผลให้ราคาหุ้นของกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ถูกกดดัน
ดัชนี DE 40 ดีดตัวจากแนวต้านที่ 23,500.0 โดยไม่สามารถทำจุดสูงสุดใหม่ได้ มีแนวโน้มว่าจะเข้าสู่ช่วงการเคลื่อนไหวในกรอบไซด์เวย์ หรืออาจเปลี่ยนเป็นแนวโน้มขาลงหากราคาทะลุแนวรับ แนวโน้มขาขึ้นในระยะสั้นไม่น่าจะดำเนินต่อไป
การคาดการณ์ราคา DE 40 มีสองสถานการณ์ดังนี้:
ข่าวหลักในครั้งนี้คือการเริ่มเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ของสหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นอีกขั้นของสงครามการค้า และอาจนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อทั่วโลก ซึ่งส่งผลกระทบต่อแนวโน้มการผ่อนคลายนโยบายการเงิน ดัชนีสหรัฐฯ ยังคงปรับตัวลดลง ขณะที่ดัชนี JP 225 ของญี่ปุ่นอาจเข้าสู่แนวโน้มไซด์เวย์ ด้านดัชนี DE 40 ของเยอรมนียังคงอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น แต่ความเป็นไปได้ของการเกิดการปรับฐานเริ่มเพิ่มสูงขึ้น
การคาดการณ์ที่นำเสนอในส่วนนี้จะสะท้อนให้เห็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้แต่งเท่านั้น และจะไม่สามารถถูกพิจารณาว่าเป็นแนวทางสำหรับการซื้อขาย RoboForex ไม่รับผิดชอบสำหรับผลลัพธ์การซื้อขายที่อ้างอิงตามคำแนะนำการซื้อขายที่อธิบายเอาไว้ในบทวิจารณ์การวิเคราะห์เหล่านี้